collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น : คำนำพระอรหันต์จี้กง  (อ่าน 40013 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                    บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง      

               ตอนที่  10  :  ทางอริยะประจักษ์แจ้งชื่อก้อง  สู่งานเลี้ยงสระทิพย์เข้าเฝ้าสมเด็จพระมารดา

พระนางเก้าฟ้า  :   เฟยหลวนลุกขึ้นมาเถิด มิต้องมีมารยาทมากนัก  
วิสุทธิณีที่หก   :
                  เธอได้รับราชโองการให้มาแต่งหนังสือ ครั้งนี้หนังสือ  " นรกคนเป็น " ได้อาศัยโรงเจเจ้ามาจัดทำ ทำให้ผู้คนได้รู้กลไกของยมโลก นับเป็นพระเมตตาของสมเด็จแม่ พระองค์ทนไม่ได้ที่เห็นเวไนยสัตว์จมปรักอยู่ในโคลนตมแห่งโลกนี้ เห็นผู้คนต่างแก่งแย่งชิงทรัพย์เกียรติยศชื่อเสียง ผลที่สุดก็มีโรครุมเร้าทั้งตัว หารู้ไม่ว่านี่คือสาเหตุของกรรมผูกพันธ์  น่าจะรู้ว่ายาขนานแท้รักษาได้แต่โรคปลอม ๆ โรคจริง ๆ ไม่มียารักษา การเจ็บป่วยของกายเนื้อกับโรคแห่งเวรกรรม มีความแตกต่างกันมากนัก โรงเจของเจ้าได้รับราชโองการให้วิญญาณท่องเที่ยวเพื่อแต่งหนังสือในครั้งนี้ ก็เหมาะสมกับการเวลาและความสัมพันธ์ของมนุษย์ นับว่าบุญคุณของเจ้ายิ่งใหญ่นัก

เฟยหลวน  :  มิได้ค่ะ ! การเผยแผ่แทนเบื้องบน ศิษย์ขอรับหน้าที่อย่างสุดความสามารถ เมื่อมองเห็นความเมตตาของเทพพุทธและความยากลำบากในการอบรมแล้ว สิ่งที่ศิษย์กระทำนับว่าน้อยนิดไม่เพียงพอ มิกล้าที่จะรับเป็นบุญคุณเจ้าค่ะ

พระจี้กง  :  เออแน่ !  เฟยหลวนกล่าวขานก้าวหน้าไปมากแล้วนะ

เฟยหลวน  :  ฮิ ฮิ !  อาจารย์อย่าหัวเราะศิษย์เลยน่า ศิษย์เขินแย่เลย

พระนางเก้าฟ้า  :  สมเด็จแม่ได้เตรียมอาหารไว้โต๊ะหนึ่งในมหาตำหนัก กำลังรอพบเฟยหลวน เราไปกันเถอะ ! อย่าให้สมเด็จแม่ต้องรอนาน

วิสุทธิณีที่หก  :  ถูกแล้ว ! ของเชิญพระอรหันต์จี้กงและเฟยหลวน เถิด

เฟยหลวน  :  ค่ะ ! ศิษย์รับคำบัญชา โอ้ ! ของแปลก ๆ ทั้งสองข้างทาง หอมระรื่นงามนัก สีสันแปลกตา แต่ละอย่างแต่ละแบบอีกทั้งกลิ่นสีไม่อาจจะได้พบในโลกมนุษย์ ช่างทำให้ศิษย์ดูจนตาลาย เป็นบุญตายิ่งนัก ทั้งดอกไม้ใบหญ้าเปล่งรัศมีระยิบระยับ สวยงามอะไรเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะบรรยายแบบไหนจึงจะถึงความงดงามของที่นี่ เออนั่น ! มีนกน้อย  นี่เป็นนก........

วิสุทธิณีที่หก  :  นกเหล่านี้เป็นนกเทวดา มิใช่เป็นนกที่มีกรรมอย่างในโลก เพราะสามารถเข้าใจในพุทธธรรมและรู้ใจเธอได้ดีด้วย

เฟยหลวน  :  อ๋อ !  เป็นเช่นนี้เอง นกแต่ละตัวมีขนแวววาวดูโปร่งใส ไม่มีฝุ่นละอองเกาะ น่ารักเสียจริง ๆ โอ้ ! บินมาที่ตัวศิษย์ ดูเหมือนศิษย์จะมีบุญสัมพันธ์กับนกมากอยู่  ฮิ ฮิ ! จิ๊บ จิ๊บ..... เอ๊ะ !  ไม่ใช่จะไปเข้าเฝ้าสมเด็จแม่กันหรอกหรือ ทำไมเดินกันมายังสระน้ำนี่

พระจี้กง  :  จะเข้าเฝ้าสมเด็จแม่ต้องชำระล้างฝุ่นในตัวเจ้าก่อน ถึงแม้จะเป็นกายทิพย์ แต่ก็มีคุณกับเจ้ามากนะ

เฟยหลวน  :  ไม่ได้ ! อาจารย์ท่านลืมไปแล้วหรือว่าศิษย์ว่ายน้ำไม่เป็น อีกอย่างก็ไม่ได้นำเสื้อผ้ามาเปลี่ยน หากเปียกแล้วจะเป็นหวัด แล้วจะเข้าเฝ้าสมเด็จแม่ได้อย่างไร อาจารย์ขา ศิษย์ไม่ลงไปได้ไหมคะ

พระนางเก้าฟ้า  :  เฟยหลวน ! ไม่ต้องกลัว ! ลงไปเถอะ ! มีเราอยู่ที่นี่

เฟยหลวน  :  แต่ศิษย์ว่ายน้ำไม่เป็น ขอล้างหน้าแต่เพียงอย่างเดียวได้ไหม

พระจี้กง  :  ยิ่งพูดก็ยิ่งเหลวไหล เอ้า ! ลงไปเถอะ !  

เฟยหลวน  :  โอ้ย ๆ ! .....อย่าอาจารย์อย่า !  (ตูม) ช่วยด้วย !  ช่วยด้วย !  ท่านวิสุทธิณีช่วยศิษย์ด้วย ศิษย์ว่ายน้ำไม่เป็น ( จับมือวิสุทธิฯีไว้แน่นไม่ยอมปล่อย )

วิสุทธิณีที่หก  :  เฟยหลวน !  เจ้าร้อนรนไปแล้ว ปล่อยมือเถอะไม่จมหรอก

เฟยหลวน  :  เออ !  จริงด้วย ! ทำไมไม่จมนะ แปลกจริง ดูเหมือนมีแรงดันให้ลอยอยู่นั้น ทำให้อยู่ได้ โอ้ !  น้ำนี่ก็รสชุ่ม ชุ่มคอด้วย ไม่เลยเลว ! ฮิ ฮิ !  ไม่จมด้วย น่าเล่นจริง ๆ เย็นสบาย เย็นสดชื่นไม่เป็นไรแล้ว ! ทำให้กลัวแทบแย่ !  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 4/08/2554, 09:15 โดย jariya1204 »

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                    บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง     

               ตอนที่  10  :  ทางอริยะประจักษ์แจ้งชื่อก้อง  สู่งานเลี้ยงสระทิพย์เข้าเฝ้าสมเด็จพระมารดา

พระจี้กง  :  พอแล้ว !  ขึ้นมาได้ เมื่อกี้นี้ให้ลงไม่ยอมลง ตอนนี้ก็ไม่ขึ้นเลยนะ

เฟยหลวน  :  ค่ะ ! ศิษย์รับบัญชา เอ้อ ! พอพ้นจากน้ำ กายก็ไม่เปียกด้วย แม้แต่เสื้อผ้าก็แห้ง น่าแปลกจริง ๆ !  แต่ภายหลังการอาบน้ำรู้สึกเย็นสบาย สดชื่นขึ้นเป็นทวีคูณ สบายจริง ๆ

วิสุทธิณีที่หก  :  ที่นี่เป็นน้ำจากสระทิพย์ไหลมาสู่ที่นี่ เพื่อให้มนุษย์มือทรงมาถึง จะได้ชำระล้างให้วิญญาณสะอาด

เฟยหลวน  :  อ๋อ !  เป็นอย่างนี้เอง จึงรู้สึกไม่เหมือนเดิม

พระนางเก้าฟ้า  :  เวลาสายแล้วรีบไปกันเถอะ

เฟยหลวน  :  ค่ะ ! ตำหนักระหว่างทางล้วนงามตระการตา แต่ละแห่งมีแสงระยิบระยับ สระทิพย์แดนสวรรค์ช่างแตกต่างอะไรเช่นนี้

วิสุทธิณีที่หก  :  ถึงหน้าตำหนักพระแล้ว เฟยหลวนจัดแต่งตัวให้เรียบร้อย เตรียมตัวเข้าเฝ้า

พระนางเก้าฟ้า - วิสุทธิณีที่หก  :  กราบเข้าเฝ้าสมเด็จพระมารดาเจ้าค่ะ  บัดนี้ ได้นำท่านพระอรหันต์จี้กงและหลอเฟยหลวน มือทรงโรงเจจ๋วงเซินถังแห่งไต้หวันมาแล้วเจ้าค่ะ

พระจี้กง  :  อาตมาเต้าจี่กราบเฝ้าสมเด็จแม่เมตตาทรงพระสำราญ  เฟยหลวนรีบเข้าไปกราบข้างหน้า ! อย่าหันรีหันขวางมองไม่เสร็จ สงบสติหน่อย

เฟยหลวน  :  อ่อเอ่อ !  ค่ะ !  ศิษย์หลอเฟยหลวนขอกราบพระมารดาทรงพระสำรายเจ้าค่ะ ขอองค์เหล่ามู่ มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนานเจ้าค่ะ ( มือไม้สั่นไปหมดไม่รู้เป็นอะไร ยิ่งกว่าเข้าหาเจ้านายผู้ใหญ่เสียอีก ไม่เชื่อ ขอเชิญท่านผู้ปฏิบัติธรรมมาลองดูก็ได้ )

เหล่ามู่  :  ขอให้ทุกท่านลุกขึ้นเถิด !  ลำบากมากแล้ว !  ท่านพระจี้กง คราวนี้ก็ลำบากท่านอีกแล้ว

พระจี้กง  :  มิกล้า !  เพื่อเวไนยในยุคไตรกัป อาตมามิกล้าว่าลำบาก

เหล่ามู่  :  เป็นเพราะเพื่อเหล่าวิญญาณเก้าสองไม่คิดกลับแดนนิพพาน จมปรักลุ่มหลงอยู่ในโลกีย์ ถูกภาพปลอมทำให้ลุ่มหลง จึงต้องทำให้ท่านทั้งหลายต้องลำบากเที่ยวไปมา

พระจี้กง  :  สมควรแล้ว  สมควรแล้ว  เหล่ามู่ทรงเมตตา

เหล่ามู่  :  เฟยหลวนเจ้าก็ลำบากด้วย

เฟยหลวน  :  ศิษย์มิกล้าพูดว่าลำบาก ( สิ่งที่ถูกต้อง มิกล้าแม้ขยับ )

เหล่ามู่  :  ทั่วบริเวณไต้หวัน ระยะนี้มีหนังสือธรรมะออกมาน้อยลง ในครั้งนี้โรงเจขอเจ้าน้อมรับโองการสวรรค์แต่งหนังสือ " บันทึกปรากฏการณ์นรกคนเป็น " สำเร็จลงแล้วก็ให้ลูกหลินจ๋วงซิวผู้มีปัญญาใช้ทั้งวิทยุและโทรทัศน์เพื่อเผยแผ่ธรรมะ ให้กว้างขวางไปถึงทุกท้องที่ เพื่อได้ปลูกบุญสัมพันธ์ไปทั่ว จักได้เปลี่ยนแปลงบรรยายกาศอันเลวร้ายของสังคม ทั้งหมดนี้ ได้ผ่านมติของที่ประชุมของบรรดาวิสุทธิเทพเบื้องบนมาแล้ว กาลเวลาแปรเปลี่ยน จิตคนยิ่งเปลี่ยนแปลงจนแม่นี้เจ็บปวด เพื่อเป็นการฉุดช่วยจิตคนที่จมปรัก มติของที่ประชุมของบรรดาวิสุทธิเทพต้องการประกาศธรรมให้กว้างขวาง นำสัจธรรมมาอบรมให้สอดคล้องกับการสอนในปัจจุบัน ในขณะที่ลูกหลินจ๋วงซิวต้องการลงไปฉุดช่วยเวไนยนั้น เป็นผู้แบกรับราชโองการเบื้องบนอันอาจยืนหยัดได้เฉพาะขณะบรรยายยืนอยู่บนแท่นปราศัย จะมีช่วงเสียงทำนองและความกระปรี้กระเปร่าที่ดี ล้วนเป็นของที่ประทานให้จากเบื้องบน ขณะนี้ โอกาสและเวลากำลังมาถึง วันหลังเมื่อมีบุญสัมพันธ์ก็จะบอกให้ลูกรู้โดยผ่านมายังประธานโรงเจ แม่ก็จะคัดเลือกโรงเจ แห่งหนึ่ง  เพื่อนำบุญสัมพันธ์บอกให้ชาวโลกได้รู้ได้เข้าใจ ด้วยเหตุนี้ อนาคตภาระของโรงเจ ก็ยิ่งจะหนักขึ้นอีก และหวังว่าบรรดาลูก ๆ ของโรงเจนี้จะไม่บ่นว่าลำบากในการเผยแผ่ธรรมะให้กว้างขวางขึ้น อย่าได้ขี้เกียจ มิฉะนั้นก็ยากที่บรรลุถึงปณิธาน การที่ลูก ๆสามารถอยู่ร่วมโรงเจเดียวกันและปฏิบัติธรรม นับว่าในอดีตชาติ มีการให้คำมั่นสัญญาว่าจะช่วยเหลืองานธรรมเพื่อให้ถึงปณิธาน หวังว่าลูก ๆ จะไม่ละทิ้งปณิธานการจัดงานประชุมธรรมะใหญ่ที่โรงเจจ๋วงเซินถังจัดขึ้น ก็ขอให้จ๋วงซิวเป็นผู้จัดการ รวมถึงหัวข้อธรรมที่จะบรรยาย ก็สุดแต่นายจ๋วงซิวจะกำหนด ทั้งหมดเป็นการนำปัญญาของนายจ๋วงซิวมาปลอบเตือนให้ผู้หลง ให้รู้กลับสู่นิพพาน รู้ถึงจิตดั้งเดิม รู้ถึงจิตใจตนเอง เพราะฉะนั้นเวลาบรรยายธรรม เทพพุทธก็จะเพิ่มช่วยเหลืออย่างเงียบ ๆ เริ่มงานในตอนแรก ๆ ก็มีสิ่งขัดข้อง งานต่าง ๆ ก็ต้องอาศัยเจ้าสามีภรรยาเริ่มลงมือจัดแจง แต่ต้องให้บรรดาลูก ๆ ของโรงเจ ยึดถืออุดมการณ์เริ่มแรกไว้ ย่อมประสบความสำเร็จล้ำหน้าคนอื่นแน่แท้ กรรมเวรของตนก็จะหลุดน้อยหมดไปโดยเร็ว

เฟยหลวน  :  ค่ะ !  แต่งานประชุมธรรมะมิใช่เล็ก ๆ โรงเจจะมีความสามารถจัดได้หรือ

เหล่ามู่  :  งานอยู่ที่ไหน ไฉนเลยวิสุทธิเทพในสามโลก ประชุมกันให้นายจ๋วงซิวรับผิดชอบรับหน้าที่หนักในวันนี้ เพื่อเป็นตัวอย่างแก่สถานธรรม  ด้วยแบบนี้จึงจะทำให้การอบรมของสถานธรรมในไต้หวันคึกคัก

เฟยหลวน  :  แต่ไม่ทราบว่าจะราบรื่นไหมคะ

เหล่ามู่  :  ไม่ต้องหนักใจ นอกจากเทพพุทธจะช่วยเหลือแต่เงียบ ๆ แล้ว แม่ก็มีคำสั่งให้เบื้องบนจดบันทึกบุญกุศลของผู้ช่วยงานประชุมอบรม หรือผู้บริจาคเงินช่วยเหลือ เพื่อให้พ้นจากเคราะห์ร้ายได้ครั้งนี้เป็นกำลังใจ

เฟยหลวน  :  ค่ะ !  กราบขอบคุณสมเด็จแม่ทรงพระเมตตา เมื่อศิษย์กลับโรงเจแล้ว ก็จะบอกกับนายจ๋วงซิวเอง

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                     บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง     

               ตอนที่  10  :  ทางอริยะประจักษ์แจ้งชื่อก้อง  สู่งานเลี้ยงสระทิพย์เข้าเฝ้าสมเด็จพระมารดา

เหล่ามู่  :  แต่งานประชุมธรรมะในแต่ละปีควรจัดงานใหญ่สองครั้ง เวลาแล้วแต่ลูกหลินจ๋วงซิวจะกำหนดก็พอ ครั้งนี้ ที่เจ้าติดตามพระจี้กงมาท่องเที่ยวนรกคนเป็น ควรรู้ว่าในโลกล้วนเป็นทะเลทุกข์ มนุษย์ก็ยังไม่รู้จักบำเพ็ญเพื่อความหลุดพ้น ทำให้แม่ใจคอไม่สงบ หวังว่า เมื่อหนังสือเล่มนี้ออกสู่โลก ก็อาจทำให้ลุกผู้หลงจะสำนึกตัวได้ในเร็ววัน อย่างนี้จะได้ไม่โทษแม่ทุกข์ใจที่แพร่งพรายนรกคนเป็น

เฟยหลวน  :  ค่ะ !  ศิษย์ขอทำจนสุดแรงเจ้าค่ะ เพื่อให้หนังสือเล่มนี้ได้พิมพ์เผยแผ่ เพื่อให้ชาวโลกสามารถมีโอกาสมาสัมผัสได้ และ ได้เข้าใจถึงความลำบากใจของแม่ที่เมตตา เพื่อเป็นการสำนึกตัวในเรื่องที่ผ่านมา จะได้ปฏิบัติธรรม บำเพ็ญจิต เป็นการตอบแทนพระคุณแม่ที่เมตตา แต่ว่าสมเด็จแม่คะ สิ่งที่ศิษย์หนักใจกลับมิใช่เรื่องนี้ กลับเป็นเรื่องเงินที่ก่อสร้างโรงเจ ยังมีที่ยังก่อสร้างไม่สำเร็จอีกมาก รายจ่ายยังไม่มีทางออกเลย อันเป็นความหนักใจของศิษย์และจ๋วงซิว

พระจี้กง  :  อ๋อ !  เฟยหลวน ทำไมจะเอาเงินจึงมาถึงสมเด็จแม่ได้

เหล่ามู่  :  ฮ่า !  เฟยหลวน !  เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องหนักใจ แม่จะช่วยจัดการให้ จะสั่งให้เทพพุทธไปช่วยเจ้า จัดให้ผู้มีบุญสัมพันธ์มาช่วยเหลือ ก็เหมือนงานเผยแผ่ธรรมะ เจ้าจงวางใจ  โรงเจจ๋วงเซินถังเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ของเบื้องบนที่หนึ่ง ไม่ยอมให้มารมากร่ำกรายเจ้าไม่ต้องห่วง มีเทพพุทะคอยคุ้มครองอยู่ แม่ได้ส่งขุนพลแห่งเทพจาตุมหาราชิกามาคุ้มครอง ทั้งหมดจะราบรื่น

เฟยหลวน  :  ค่ะ กราบขอบคุณสมเด็จแม่ทรงเมตตา  ( ในใจดีใจเป็นล้นพ้นจนเกีอบจะร้องไห้ )

เหล่ามู่  :  เออ มา มาทางห้องข้าง ๆ แม่ได้เตรียมอาหารว่างเพื่อเจ้าเฟยหลวน มารับประทานเสีย ! มา

เฟยหลวน  :  โอ้โฮ !  เป็นอาหารที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ดูน่าเอร็ดอร่อย  ฮิ  คราวนี้มีลาภปากแล้ว ( เผยให้เห็นจิตเดิมออกมา )

พระจี้กง  :  เฟยหลวน !  อย่าเสียมารยาท

เฟยหลวน  :  ค่ะ ขอประทานโทษ ศิษย์เสียมารยาทไป พอเห็นของที่น่ารับประทานก็เผลอตัว ทำให้สมเด็จแม่และบรรดาวิสุทธิเทพต่างหัวเราะ ขอประทานอภัย ( หน้าแดงหูก่ำจนทำอะไรไม่ถูก )

เหล่ามู่  :  เออ ไม่เป็นไร  ไม่เป็นไร  อย่างนี้จึงจะเป็นจิตเดิมอย่างธรรมชาติ  มา !  พวกเรานั่งลง เฟยหลวน ! นั่งซิ ! 

เฟยหลวน  :  ศิษย์นั่งได้หรือคะ ( ทั้งเกรงทั้งดีใจ )

เหล่ามู่  :  งานวันนี้จัดเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ ทำไมจะนั่งไม่ได้ล่ะ  มา !  เจ้านั่งลงข้าง ๆ แม่นี่แหละ

เฟยหลวน  :  ขา..... ฮือ..... ( ดีใจเป็นล้นพ้นจนร้องไห้ )

พระจี้กง  :  เฟยหลวน !  เจ้าร้องไห้ทำไมน่ะ

เฟยหลวน  :  ขอประทานอภัย  ศิษย์ตื่นเต้นจนเกินไป ตื่นเต้นมาก ๆ ประทานอภัยเจ้าค่ะ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                   บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง     

               ตอนที่  10  :  ทางอริยะประจักษ์แจ้งชื่อก้อง  สู่งานเลี้ยงสระทิพย์เข้าเฝ้าสมเด็จพระมารดา

เหล่ามู่  :  อ้อ  ร้องไห้เพราะดีใจ  เร็ว !  เช็ดน้ำตาให้แห้งเสีย  มา !  แม่จะแนะนำเหล่าวิสุทธิเทพที่อยู่ข้าง ๆ ให้เจ้ารู้จักทีละองค์ องค์ที่อยู่ข้าง ๆ เจ้าก็คือ พระนางเก้าฟ้า  ถัดไปคือ วิสุทธิณีต้งซวนเซิน  ถัดไปก็วิสุทธิณีที่หก  แล้วถัดไปเจ้าลองดู ๆ ซิ เป็นใครกัน

เฟยหลวน  :  อื่ม ดูคุ้น ๆ ท่านผู้นี้ดูเหมือน.....ที่โรงเจใช่ไหมคะ

เหล่ามู่  :  ถูกแล้ว เป็นท่านผู้นั้น นี่เป็นวิญญาณเดิมของท่าน แต่เป็นเพราะไม่ระมัดระวังได้ล่วงศีล และเพราะมีสัญญากับเจ้าและจ๋วงซิว ดังนั้น จึงให้ท่านจุติลงไปยังโลกเพื่อรับทุกข์ แม่ก็ได้ฝากให้ท่านไปช่วยงานธรรมที่นั่นเพื่อให้สิ้นปณิธานเป็นการชดเชยความผิดและเป็นการบำเพ็ญต่อไปภายหน้าก็สามารถคืนสู่ตำแหน่งเดิม นี่เป็นความหวังของแม่

เฟยหลวน  :  อ๋อ  เป็นเช่นนี้เอง ศิษย์เฟยหลวนขอคารวะบรรดาท่านวิสุทธิณี ( ทุก ๆ ท่านช่างสง่างาม ราศีดี เห็นทีต้องฝึกฝน เอาอย่างท่านวิสุทธิณี เอาท่านเป็นเป้าหมาย เพื่อความขยันขันแข็ง อือ จะทำอย่างไรดี )

พระจี้กง  :  เฟยหลวน เจ้ายังคร่ำครวญอะไรอยู่หรือ

เฟยหลวน  :  หา มิได้เจ้าค่ะ  มิได้เจ้าค่ะ

เหล่ามู่  :  ถัดต่อไปก็คือ ท่านเทพเจ้าจ๋วงหยวนซิวฉางฉุน และ พระแม่ลี่ซาน ท่านพระจี้กงรู้จักดี ท่านเหล่านี้ เฟยหลวนคงเข้าใจดีแล้ว

เฟยหลวน  :  ช่างซาบซึ้งยิ่งเสียกระไร ท่านเหล่านี้ต่างก็เคยลงมาประทับทรงที่โรงเจ นับว่าเป็นเทพสัมพันธ์นับว่าเป็นบุญยิ่งนัก ขอกราบทูลถามท่านเสด็จแม่ ทำไมไม่เห็นอาจารย์ของหม่อมฉัน ( พระแม่ธรณี )

เหล่ามู่  :  อ๋อ !  พระแม่ธรณีมีภาระกิจ ขณะนี้อยู่ในช่วงเวลาที่อวตารกายลงไปดปรดสัตว์ ดังนั้น จึงมิได้มาร่วมงานเลี้ยงนี้ แต่วันข้างหน้าจะมีบุญสัมพันธ์ เจ้าก็จะได้พบเอง

เฟยหลวน  :  อ๋อ !  เป็นเช่นนี้เอง ( ผิดหวังมาก )

พระจี้กง  :  เฟยหลวน รีบ ๆ รับประทานเสีย เวลาไม่มากแล้วต้องกลับโรงเจ

เหล่ามู่  :  ถูกแล้ว  ของที่ชอบก็รับประทานเข้าไปเสีย

เฟยหลวน  :  ค่ะ อร่อยจริง ๆ ( ที่จริงทุกอย่างก็อร่อยไปหมด แต่ท้องเล็กไปบรรจุไม่ลง ไม่รู้จะเอากลับไปได้ไหมเนี้ย เอาไปแบ่งพรรคพวกที่ร่วมปฏิบัติธรรม )

พระจี้กง  :  เจ้าอยากได้ก็นำไปเถอะ เวลาดึกแล้ว รีบถวายบังคมลาสมเด็จแม่ เราจะได้กลับโรงเจกัน

เฟยหลวน  :  ว้า !  อาจารย์มีอภิญญารู้หมด  รู้กระทั่งว่าศิษย์กำลังคิดอะไรอยู่ รู้สึกเขินอายฟุ้งซ่านน้อยหน่อยจะดีกว่า จะได้ไม่ถูกเหล่าเทพพุทธหัวเราะเอา เฮ้อ ! คิดว่าต้องกลับ รู้สึกอ้อยอิ่งไม่อยากกลับ เวลาช่างหมดเร็วจริง นึกได้ว่าเพิ่งจะมาถึงต้องกลับเสียแล้ว

เหล่ามู่  :  วันหลังยังมีเวลานานกว่านี้อีก ขอให้ทำงานเผยแผ่แทนเบื้องบน ให้จดจำชะตาชีวิตของตนไว้ให้ดี ๆ อย่าขี้เกียจ สักวันหนึ่งก็จะได้มาพบกับแม่อีก อย่าได้กังวลเลย

เฟยหลวน  :  ก็คงอย่างนั้นกระมังคะ แต่ไม่ทราบว่าจะรอถึงปีไหน วันไหน จึงจะได้เข้าเฝ้าเสด็จแม่อีก อือ.....( ร้องไห้อีก )

พระจี้กง  :  อย่าร้องไห้เลย อาตมาขอกราบลาท่านเหล่ามู่

เฟยหลวน  :  ศิษย์จรดเข่าสามครั้ง กราบเก้าครั้ง  ลาเสด็จแม่แล้ว อือ.....

เหล่ามู่  :  มิต้องมารยาทมากนัก พระวิสุทธิณีทั้งสององค์ไปส่งแทนแม่ด้วย ( เสด็จแม่ทรงกำสรวล )

พระนางเก้าฟ้า - วิสุทธิณีที่หก  :  ค่ะ ขอเชิญท่านพระจี้กงและเฟยหลวน ตามมาทางนี้.........

เฟยหลวน  :  ขอเรียนถามท่านอาจารย์ ศิษย์เรียกตนเองว่า ศิษย์ พอพบหน้าสมเด็จแม่ก้เรียกตนเองว่าศิษย์ ที่จริงต่อหน้าสมเด็จแม่ต้องใช้สรรพนามตนเองว่าอะไรจึงถูกคะ

พระจี้กง  :  คราวหลัง ต้องพูดว่า ลูก

เฟยหลวน  :  ค่ะ  ขอบคุณท่านอาจารย์ที่สอนสั่ง และก็ขอบคุณท่านวิสุทธิณีทั้งสอง หากทำให้ท่านยุ่งยากที่ไหนบ้าง ก็โปรดประทานอภัยนะคะ ศิษย์มาถึงปทุมาสน์แล้ว ขอกราบลาไปก่อน ( จรดเข่าสามครั้ง  กราบเก้าครั้ง )

พระนางเก้าฟ้า - วิสุทธิณีที่หก  :  ไม่ต้องเกรงใจ ดูแลตนเองด้วย หากมีบุญสัมพันธ์จะได้พบกันอีก

พระจี้กง  :  เอ้อ.....ปิดตา.....ขึ้น........ถึงโรงเจจ๋วงเซินถังแล้ว เฟยหลวนลงจากปทุมาสน์ วิญญาณกลับเข้าร่าง

เฟยหลวน  :  กราบขอบคุณอาจารย์ที่สั่งสอนมาหลายวัน ศิษย์ขอจรดเข่าสามครั้ง กราบเก้าครั้ง  เป็นการแสดงความขอบคุณ หวังว่าคงมีบุญสัมพันธ์ได้ร่วมไปเที่ยวกับท่านอาจารย์อีก ( จรดเข่าสามครั้ง กราบเก้าครั้ง )

พระจี้กง  :  ย่อมมีบุญสัมพันธ์แน่นอน หนังสือ " บันทึกปรากฏการณ์นรกคนเป็น " ได้อวสานลงแล้ว อาตมาต้องกลับเบื้องบน เพื่อรายงาน ศิษย์ทั้งหลายเหนื่อยมากแล้ว

เฟยหลวน  :   ศิษย์ขอน้อมส่งเสด็จท่านอาจารย์ ( จรดเข่าสามครั้ง กราบเก้าครั้ง )

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
                  บันทึกปรากฏการณ์ นรกคนเป็น   นำโดยพระอรหันต์จี้กง     
 
                         ท้ายบท โดย พระอรหันต์จี้กง     

        ทอดพระเนตรสู่เบื้องล่างเห็นเวไนยสัตว์มากมาย แตกต่างที่หลงและเข้าใจคือ นรก หรือ สวรรค์  ใจคนไม่คร่ำครึ ติดตาข่ายไม่เคลื่อนไหวเป็นเนืองนิจ อันเป็นเหตุปัจจัยทำให้สังคมมีคุณธรรมเสื่อมทรามลงทุกวัน หากคน ๆ หนึ่ง ประพฤติไม่ถูกทำนองคลองธรรม ไร้คุณธรรม ก็จะมีอะไรต่างไปจากสัตว์เดรัจฉานเล่า ควรรู้ว่า  คุณธรรมและสัทธรรม เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยหล่อเลี้ยงแะลส่งเสริมให้จิตใจรุ่งโรจน์เป็นมงคล นับเป็นตำรับยาที่ช่วยรักษาคนที่ไร้โรคร้องครวญครางดีที่สุด น่าเสียดาย ชาวโลกยอมรับนับถือกลับเหินห่าง ปล่อยปละละเลยจนเจ็บป่วย ยิ่งนานยิ่งนัก จนในที่สุดก็สูญเสียโอกาสรักษาไป น่าสมเพศยิ่งนัก  ในกาลสมัยแห่งยุคปลายธรรมนี้  สถานธรรมเกิดขึ้นมากมาย ที่ได้รับโองการเบื้องบนให้แต่งหนังสือกล่อมเกลาชาวโลกกลับคืนสู่ฝั่ง ( นิพพาน ) ซึ่งจะพบเห็นได้ทั่ว ๆ ไป  เป็นเพราะเบื้องบนเมตตา เพื่อเป็นการโปรดเหล่าเวไนยสัตว์ จึงได้แพร่งพรายสิ่งที่ไม่เปิดเผยได้ง่ายมาก่อน ให้มนุษย์ได้มีโอกาสได้รู้ได้เข้าใจ  โดยมือทรงแห่งโรงเจศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับโองการเบื้องบน นำวิญญาณไปท่องเที่ยวแต่งหนังสืออย่างละเอียด เพื่อสนองบุญตาของชาวโลก
     
        การที่หนังสือ " บันทึกปรากฏการณ์นรกคนเป็น " ต้องได้ออกสู่ชาวโลก ก็เป็นเพราะเบื้องบนมีคุณธรรมที่ให้สรรพสิ่งกำเนิดขึ้น เวไนยสัตว์เบื้องล่างจึงมีโอกาสได้รู้ได้ฟังรัตนคัมภีร์เล่มนี้ แต่ก็ขอให้ เมื่อหนังสือเล่มนี้พิมพ์ออกเผยแผ่แล้ว จะสามารถนำความสุขมาสู่เวไนยสัตว์เบื้องล่างได้ และยิ่งหวังเป็นอย่างมากว่า เหล่าแพะจำนวนมากที่หลงทางนี้จะได้กลับ (ได้รับการโปรด ) อันเป็นความปรารถนาของอาตมา อีกทั้งจะได้ไม่เสียแรงลำบากในการพาเฟยหลวนเข้าไปใน
" นรกคนเป็น " เพื่อแต่งหนังสือ   

        วันนี้เป็นวันที่หนังสือ  " บันทึกปรากฏการณ์นรกคนเป็น " ได้สำเร็จลง อาตมาก็นำเอาหน้านี้เป็นคำท้ายบท

                                         พระเต้าจี้ แห่งหนานผิง

                     ให้ไว้ ณ โรงเจจ๋วงเซินถัง เมืองไถจง ขึ้นตรงต่อ สวรรค์ทักษิณ               

Tags:
 

มหาปณิธาน

พระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

มหาปณิธานพระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

“...เพื่อหมู่สัตว์ทั้งหกภูมิผู้มีบาปทุกข์ ข้าพเจ้าจะใช้วิธีการต่างๆ ช่วยให้หลุดพ้นจนหมดสิ้น แล้วตัวข้าพเจ้าจึงจะสำเร็จพระพุทธมรรค”