วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร ฉบับ พระพุทธจี้กงอรรถาธิบาย
บรรพที่ ๑
ความเป็นมาของการประชุมธรรม
ความสังเขป :
สำหรับบรรพนี้ ถือว่าเป็นบทนำของพระสูตร โดยเป็นการประกาศให้สาะุชนได้ทราบว่า งานประชุมธรรมที่เชตวนารามได้เริ่มต้นขึ้นจากจุดนี้ จากคำดังที่เราได้สดับ จนกระทั่งถึงพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ 1,250 รูปนี้ ถือว่าเป็นบทนำสามัญ ซึ่งได้กล่าวถึงพิธีการตรัสเทศนาธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้า ส่วนตอนตั้งแต่เวลานั้น จนถึง จัดแต่งอาสนะแล้วประทับนั่ง นี้ ถือว่าเป็นบทนำริเริ่ม ซึ่งหมายถึงว่า การที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงได้ริเริ่มการประชุมธรรมในครั้งนี้ ก็เป็นเพราะพระองค์มีพระประสงค์จะให้เวไนยสัตว์ได้กระจ่างในใจจริงที่เป็นองค์แท้ ดังนั้น พระองค์จึงได้อาศัยออกบิณฑบาตเป็นการริเริ่มพระสูตร เพื่อให้เวไนยสัตว์ได้มีความเข้าใจว่า โดยแท้จริงแล้ว เวไนยสัตว์ก็ไม่ได้มีความแตกต่างกับพระพุทธะเลย ซึ่งเราจะสามารถเห็นได้จาก พระอริยาบทในชีวิตประจำวัน คือ เดิน ยืน นั่ง นอน การกิน การสวมใส่ ที่พระองค์ได้แสดงออกในพระสูตรนี้นั่นเอง
หากเราตั้งใจในการพินิจสักนิด ก็จะสามารถเข้าใจว่า การที่พระพุทธองค์ได้ทรงจีวรและทรงบาตรเช่นนี้ คือการแสดงให้เห็นถึงความเคร่งครัดของการถือศีลของพระองค์เอง การที่พระพุทธองค์ทรงออกบิณฑบาต ก็คือการสอนให้เวไนยสัตว์รู้จักการบริจาคทาน การที่พระพุทธองค์ทรงออกบิณฑบาตโดยลำดับจนครบจำนวน ก็คือการแสดงถึงขันติโดยไม่มีการแบ่งแยกยากดีมีจน ซึ่งก็คือการเมตตาต่อทุกสิ่งด้วยความเสมอภาค การที่พระพุทธองค์ทรงเก็บบาตรจีวรอย่างเรียบร้อย ก็คือการหยุดไขว่คว้าต่อแสงสีสัมพันธ์ภายนอก เพื่อไม่ให้ใจเกิดความกลัดกลุ้มทุกข์กังวล การที่พระพุทธองค์ทรงชำระพระบาท ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงการละทิ้งจากฝุ่นโลกีย์และชำระกายกรรมให้หมดไป การที่พระพุทธองค์ทรงจัดแต่งอาสนะนั้น หมายถึงฌานสมาธิ คือดำรงด้วยสัมมาทิฏฐิโดยไม่หวั่นไหว และจากนั้นก็ถือว่าได้เตรียมพร้อมสู่การประกาศพระธรรมแล้วนั่นเอง
จากตรงนี้ก็ทำให้เราเข้าใจได้อีกประการหนึ่งว่า โลกุตรธรรม (ธรรมอันมิใช่วิสัยของโลก...(พ.ป.) ) ไม่อาจที่จะห่างออกจากโลกียธรรมได้ ดังนั้น สำหรับพวกเราที่เป็นศิษย์ภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ทั้งหลาย จะต้องศึกษาในศีลวินัยที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด โดยห้ามกินดีอยู่สบาย และปล่อยปละอารมณ์กิเลสของตนเองอย่างเด็ดขาด
อธิบายพระสูตร :
พระอานนท์ได้กล่าวขึ้นว่า "สำหรับวัชรปรัชญาปารมิตาสูตรฉบับนี้ คือ พระสูตรที่เราได้ฟังพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเทศนามาด้วยตนเอง สำหรับช่วงเวลาที่พระพุทธองค์ตรัสเทศนาพระสูตรฉบับนี้ ก็เป็นช่วงที่พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จประทับอยู่ ณ เชตวนารามแห่งเมืองสาวัตถี ซึ่งในเวลานั้นมีองค์ประชุม ที่ประกอบด้วยพระโพธิสัตว์ อรหันต์ และเหล่าสาวก เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,250 ท่าน และในขณะนั้นก็เป็นช่วงที่ใกล้เวลาฉันภัตตา พระพุทธองค์จึงทรงครองจีวร ทรงบาตร และเสด็จออกจากเชตวนารามเข้าสู่มหานครสาวัตถีเพื่อออกบิณฑบาต หลังจากที่ได้บิณฑบาตโดยลำดับจนครบจำนวนแล้ว พระองค์ก็ได้เสด็จกลับสู่อารามเพื่อฉันภัตตา หลังจากฉันภัตตาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ทรงเก็บบาตร จีวร ชำระพระบาท จัดแต่งอาสนะให้เรียบร้อยแล้วจึงประทับนั่ง
คำศัพท์ :
เวลาฉันภัตตา : พระพุทธเจ้าจะมีเวลาฉันภัตตาที่แน่นอน ซึ่งหากไม่ถูกต้องต่อเวลาแล้ว พระองค์จะไม่ทรงฉัน กล่าวคือ เวลาจาก 03.00 - 09.00 เป็นเวลาฉันอาหารของเหล่าเทพ
ช่วงเวลา 09.00 - 15.00 เป็นเวลากินอาหารของเหล่ามนุษย์
ช่วงเวลา 15.00 - 21.00 เป็นเวลากินอาหารของเหล่าภูตผี
ช่วงเวลา 21.00 - 03.00 เป็นช่วงเวลากินอาหารของสัตว์เดรัจฉาน
พระผู้มีพระภาคเจ้า : เป็นคำสรรเสริญพระพุทธเจ้า ซึ่งคำสรรเสริญพระนามของพระพุทะเจ้าจะมีอยู่ 10 พระนามด้วยกันคือ
1. ตถาคต : ผู้เสด็จไปแล้วอย่างนั้น
2. อรหันต์ : ผู้ห่างไกลจากกิเลสและควรแก่บูชา
3. สัมมาสัมพุทโธ : ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ
4. วิชชาจรณสัมปันโน : ผู้สมบูรณ์ด้วยความรู้ และความประพฤติ
5. สุคต : ผู้เสด็จไปดีแล้ว
6. โลกวิทู : ผู้รู้แจ้งโลก
7. อนุตตร : ผู้ยอดเยี่ยมหาผู้อื่นเสมอเหมือนมิได้
8. ปุริสธัมสารถิ : ผู้ฝึกบุคคลที่ควรฝึก
9. เทวามนุษย์สาสน์ : ผู้เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
10. พุทธโลกนาถติ : ผู้ตื่นแล้วและเป็นที่พึ่งแห่งโลก
บาตร : จะมีอยู่ 3 ลักษณะใหญ่ ๆ คือ
1. ด้านสีสัน : บาตรจะมีลักษณะสีเทาดำ ซึ่งเป็นการเตือนคนเราไม่ให้เกิดอาการแห่งความรักนั่นเอง
2. ด้านเนื้อสัมผัส : บาตรจะมีเนื้อหยาบ ซึ่งเป็นการเตื่อนคนเราไม่ให้เกิดอาการแห่งความโลภนั่นเอง
3. ด้านขนาดบรรจุ : บาตรจะมีขนาดพอเหมาะ ซึ่งหมายถึงอย่าฉันจนเกินกำลัง
นอกจากนี้ การออกบิณฑบาตในแต่ละครั้งจะไม่สามารถเกิน 7 ครัวเรือนได้ ซึ่งถือว่าเป็นการเตือนระงับไม่ให้เกิดจิตละโมภเพื่อปากท้องนั่นเองแล
คำอธิบายแห่งพระนามของพระพุทธเจ้าทั้ง 10 ข้อนี้ ได้อ้างจาก พ.จ. หมายถึง พจนานุกรมพุทธศาสนา จีน สันสกฤต อังกฤษ ไทย จัดพิมพ์โดย คณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย 2519 ชาญพัฒนาการพิมพ์ กรุงเทพ ฯ ...(ผู้แปล)
พ.ป. หมายถึง พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระเทพเวที (ประยุทธ์ ปยุต.โต) 2538 โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.กรุงเทพ ฯ