collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อควรรู้และเข้าใจการกินเจอย่างถูกต้อง  (อ่าน 16468 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
      1. เพื่อหยุดเจ้ากรรมนายเวรรายใหม่ ( ไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ ) สรรพสัตว์ล้วนมีชีวิตมีจิตญาณเช่นเดียวกับมนุษย์เป็นเพราะชาติก่อนได้สร้างบาปกรรมไว้ ชาตินี้จึงต้องมาเกิดเป็นสัตว์เพื่อชดใช้กรรม แต่มิใช่เกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์ ดังนั้นหากเรากินเนื้อสัตว์ก็เท่าเราติดหนี้ชีวิตเขา แม้สัตว์ทั้งหลายจะต้านแรงมนุษย์ไม่ได้ ดังนั้นยิ่งเพิ่มแรงอาฆาตแค้น แล้วคอยหาโอกาศล้างแค้นอยู่เสมอ โดยทำให้เราเจ็บป่วย เกิดอุบัติเหตุ หรือเจอภัยพิบัติต่าง ๆ นี่คือสัจธรรมของกฏแห่งกรรม ดังคำกล่าวว่า""ติดหนี้ชีวิต ต้องชดใช้ด้วยชีวิต"" หากวันนี้เราเริ่มทานอาหารเจทุกมื้อตลอดไป เท่ากับเราไม่ผูกหนี้กรรมความแค้นกับสรรพสัตว์อีกต่อไป จึงเรียกได้ว่า""หยุดเจ้ากรรมนายเวรรายใหม่""แต่ในอดีตที่ผ่านมาเราเคยกินเลือดเนื้อชีวิตสัตว์ เราก็ยังมีเจ้ากรรมนายเวรในอดีตอยู่ มีเพียงหนทางเดียวก็คือ สร้างบุญกุศลชดใช้เขา จะต้องบังเกิดจิตเมตตาเริ่มจากการทานเจ จึงสมารถอุทิศบุญกุศลนี้ให้สรรพสัตว์ทั้งหลายที่อดีตเราเคยฆ่า และกินเขา ให้เขาอโหสิกรรมให้เรา ให้อภัยเรา
       2. ปลูกฝังเมตตาจิต ให้จิตญาณสว่างไสว การทานเจ เป็นการแสดงความรักอันยิ่งใหญ่ต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย เห็นทุกชีวิตเหมือนลูก เหมือนญาติ เหมือนเพื่อน  จึงไม่กล้าเบียดเบียนชีวิตสัตว์ ""สิ่งที่มีค่าที่สุดคือ ชีวิต ชีวิตใครใครก็รัก มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐจึงต้องบ่มเพาะจิตแห่งเมตตาธรรม นำความรักยิ่งใหญ่นี้แผ่ออกไปสู่พี่น้องร่วมโลกของเรา ให้สรรพชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่หากเรายังฆ่ายังกินก็เท่ากับเราไม่มีเมตตา จิตญาณก็จะมัวมองไม่สว่างใส ดังนั้นเราจึงต้องมีเมตตากรุณาสัตว์ โดยการทานเจนั่นเอง
       3. เพื่อสุขภาพพลานามัยของร่างกาย (อายุยืนยาว) พืชผักเป็นด่างมีประโยชน์ต่อร่างกาย เนื้อสัตว์เป็นกรดจะทำลายร่างกาย กับข้าวที่เป็นอาหารเจทั้งหลาย ส่วนใหญ่ได้จากผักที่เจริญเติบโตจากดิน เช่น เผือก มัน ถั่วเหลือง ผลไม้ และสาหร่ายทะเล ฯลฯ ล้วนมีสารอาหารบำรุงร่างกาย อีกทั้งไม่มีพิษ  อาหารประเภทนี้สามารถทำให้กระแสเลือดคงสภาวะความเป็นด่าง (เลือดจะใส) ในทางการแพทย์เรียกว่าเป็นอาหารที่ให้ความเป็นด่าง อาหารประเภทเนื้อสัตว์ทานแล้วจะทำให้กระแสเลือดมีสภาวะเป็นกรด (เลือดจะข้นขุ่น) ดังนั้นเนื้อสัตว์จึงถูกเรียกว่า เป็นอาหารที่ให้ความเป็นกรด
        เนื้อสัตว์จะมีสารพิษตกค้างปนอยู่ เพราะตอนที่สัตว์ถูกฆ่าจะเกิดความกลัวสุดขีด จะหลั่ง""สารอะดรีนาลิน""พิษของฮอร์โมนนี้จะแพร่กระจายแทรกซึมเข้าไปในเลือดของเนื้อทุกส่วน
        ดังนั้นคนที่ทานอาหารเจ มาจากอาหารธรรมชาติ เลือดจะใส จึงหมุนเวียนได้เร็วทำให้ร่างกายสดชื่นสบายพลังเต็มเปี่ยมความคิดอ่านรวดเร็วเฉียบไว และอายุยืนยาว
      :)  งดชีวิต เลือดเนื้อ ทั้งสัตว์บก สัตว์อากาศ สัตว์น้ำ งดพืชผักฉุนเป็นพิษตกค้างในร่างกาย 5 ชนิด
      :)  อาหารเจ  ก็คือ พืช ผัก ผลไม้ ธัญพืช และถั่วต่าง ๆ งดพืชผักฉุน 5 ชนิด ละเว้นชีวิตสัตว์ เท่ากับเราไม่ผูกหนี้กรรมความแค้นกับสรรพสัตว์ จึงไม่มีหนี้ชีวิต และเป็นการให้ทานชีวิต ดังนั้นการทานอาหารเจจำต้องปฏิบัติทุกวัน""เพื่อตัดกรรมใหม่""ปลูกฝังให้เรามีเมตตาจิต และสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
        คนทุกคนรู้ดีว่าคนตายต้องเอาไปเผาเอาไปฝังที่ป่าช้า แต่ไม่รู้ว่าเนื้อสัตว์ทุกชนิดที่ถูกฆ่าตาย ทั้งเนื้อและกระดูกที่ถูกสับเป็นชิ้น ๆให้คนแย่งกันกินลงท้องก็ฝังอยู่ในตัวเรานี่เอง คนกินเนื้อสัตว์ก็เหมือนป่าช้าเคลื่อนที่ สมารถฝังซากศพของ""สัตว์ตายโหง""อย่างไม่รู้จักเต็ม
        คนส่วนใหญ่ถ้าให้ไปเดินในป่าช้าตอนเที่ยงคืนสักหนึ่งรอบ ถ้าก้าวขาไม่ออกก็มักจะวิ่งเสียจนสะดุดขาตัวเอง แต่คนกินเนื้อกินอยู่ทุกวัน ๆ ไม่ฉุกคิดเลยว่า""ท้องของตัวเองเป็นป่าช้า"" น่าแปลกเหลือเกิน ? คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกว่าทำไมเป็นอย่างนั้น ?
        คนมีวิญญาณ สัตว์ก็มีวิญญาณเหมือนกันจะแตกต่างกันก็แต่เฉพาะสังขาร รูปกายภายนอกเท่านั้น คนคิดว่ากลัวภูตผีปีศาจ กลัวซากศพ กลัวโน้นกลัวนี่ ก็แล้วทำไมไม่กลัวเนื้อสัตว์ ? ถ้าจะเรียกให้ถูก เนื้อสัตว์ที่ตายก็คือ ซากศพ เป็นศพหมู ศพวัว ศพควาย ศพไก่ ฯลฯ
        ตัวหนังสือ ""เนื้อ"" ในภาษาจีนแท้จริงมีอักษรคำว่า ""คน"" อยู่สองคน อยู่ในประตูหนึ่งคนอีกคนอยู่นอกประตูที่เปิดกว้่าง ในทางธรรม""ปาก"" ก็คือประตูหนึ่งของร่างกาย เป็นอวัยวะรับ - จ่าย ที่ใช้กินอาหารเข้าไป และพูดออกมา ฉะนั้นคำว่า""เนื้อ"" จึงมีความหมายว่าเป็นของที่คนหลงไม่รู้อ้าปากกินเข้าไป หารู้ไม่ว่าที่แท้คือ ""คนกินคน"" ชาตินี้กินเนื้อเขา ชาติหน้าก็ต้องถูกเขากิน
        พระพุทธวจนะในมหายานสูตรกล่าวว่า บุคคลใด งดเว้นจากการกินเลือด กินเนื้อสัตว์ทั้งปวง ย่อมกระทำมหาเมตตาบารมีให้เต็มบริบูรณ์ หากบุคคลใดยังหลง กลืนกินเนื้อสัตว์ทั้งหลายอยู่ เขาได้ชื่อว่าทำลาย""เมล็ดพันธ์แห่งพุทธะ"" ที่มีอยู่ในตนย่อมต้องได้รับ""บาปอย่างมหันต์""
        ผู้ที่บำเพ็ญธรรม หากยังไม่หยุดกินเนื้อ ก็ไม่สามารถบำเพ็ญไปได้ตลอดรอดฝั่ง
        หากไม่ศึกษาธรรมะ     
        เราจึงยังไม่ทราบความจริงแห่งชีวิต
        และก่อหนี้กรรมโดยไม่รู้ตัว
       งดฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
       เลิกกินเนื้อสัตว์เถิด
  :)  ปล่อยชีวิตสัตว์ที่จะกินเข้าไปเป็นมหากุศล

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
        คำว่า"เนื้อ" คือ ""คนกินคน"" หมายถึงคนที่กลืนกินชีวิตตัวเอง เพราะยิ่งกินก็ยิ่งสะสมโรคภัย ทำให้อายุสั้น ตายเร็ว พระพุทธเจ้าตรัสเทศนา ถึงการเวียนว่ายตายเกิดในอบายภูมิทั้ง 6 ทรงย้ำเตือนให้คนตระหนักถึง""กฏแห่งกรรม"" อันเป็นหลักของธรรมชาติที่ว่า ""ทำดีต้องได้รับผลดี ทำชั่วก็ต้องได้รับผลชั่ว"" แต่ทุกวันนี้จะมีสักกี่คนที่ยอมเชื่อและทำตาม คนเดี๋ยวนี้ช่างแปลกประหลาดเหลือเกิน ? ไหว้พระทุกวัน แต่สิ่งที่พระพุทธองค์สอนไม่เชื่อถือ พูดเท่าไหร่ ๆ ก็ไม่ยอมรู้เรื่องเลย
        พระองค์ตรัสถึงความยากลำบาก ที่เราจะได้เกิดเป็นคนว่าล้วนต้องบำเพ็ญธรรมติดต่อกันมาอย่างน้อย 3 ชาติ กว่าจะได้รูปร่างเป็น""มนุษย์"" แต่คนทั้งหลายเมื่อได้เิกิดมาแล้ว กลับไม่พยายามถนอมรักษาร่างกายนี้ให้ดี คิดแต่อยากจะกิน ก็เอาปากไปกิน แล้วฆ่าสัตว์ตัดชีวิต สร้างกรรมกันไม่รู้จักจบ คนกับสัตว์ รูปร่างต่างกัน แต่จิตวิญญาณภายในเหมือนกัน
        ตลอดชีวิตของคนเราทุกวันนี้ คนไหนเก่งก็กลืนกิน ผู้อื่นโกหกพกลม ใช้เงินทอง ใช้อำนาจข่มเหงคนที่ไม่มีทางสู้ แก่งแย่งชิงดี เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ความไม่ดีทั้งหลายทำได้ทุกอย่าง คนอย่างนี้ชาติหน้าต้องเกิดเป็นสัตว์อย่างแน่นอน
        ชาตินี้ฆ่าฟันทำลายผู้อื่น ชาติหน้าต้องไปถูกเขาฆ่าสับเป็นชิ้น ๆ กินเข้าปาก ถึงเวลานั้นมีปากก็พูดไม่ได้ มันช่างสุดแสนลำบากยากแค้นเสียเหลือเกิน อยู่ในโลกมนุษย์ อยู่หรือตาย เอาเลือดเนื้อเขามากิน ก็ต้องชดใช้คืน กินเนื้อเขาไปครึ่งกิโล ต้องใช้คืน 5 ขีด ติดค้างไว้ก็ต้องเพิ่มดอกเบี้ยอีกเป็นเท่าตัว นับแล้วนับอีกไม่คุ้มเลย ไม่กินเสียเลยดีกว่าตัวเองไม่ต้องยุ่งเหยิงไม่ต้องเสียเวลาคิดมากอย่างนี้
        คนเรานับว่าเป็น""สัตว์ประเสริฐที่สุด คนสูงส่งที่สุด"" แต่น่าสงสาร น่าถอนใจ คนที่ว่าเก่ง ๆ ทั้งหลาย คนที่ทำอะไรได้ทุกอย่างกลับไม่รู้จัก""บำเพ็ญธรรม"" ทุก ๆ คนอยากฆ่าสัตว์ อยากกินเนื้ออยู่ตลอดเวลาพูดแต่ว่า""เอามากินบำรุงร่างกาย""อันนี้คือ ""โง่ที่สุด"" แทนที่จะแข็งแรงกลับต้องมาตายเพราะฌรคภัย ไม่น่าเลย? ที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นบางคนเจ็บป่วยจนต้องนอนรอคอยความตายอยู่บนเตียงยังอยากจะกินเลือดกินเนื้อผู้อื่น ทั้ง ๆ ที่แพทย์ขอร้องให้หันมารับประทานอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์บ้างคนไข้ก็มักจะตอบว่า""กินแต่พืชผักไม่อร่อย ให้หยุดกินเนื้อนั้นมันไม่ได้จริง ๆ "" อย่างนี้เรียกว่า"รักความอร่อยลิ้นมากกว่ารักชีวิต""ถึงกับยอมตายของเพียงได้กินเพื่อความอร่อย ถ้าตื้อจนถึงขั้นนี้ ก็จนปัญญาจริง ๆ
        ตัวเองไม่รู้ว่าได้สร้างกรรมเท่าไรต่อเท่าไร เพราะความอยากกิน อยากบำรุงจึงทำให้กลายเป็นคนเห็นแก่ตัวที่สุด คนที่มีเลือดเนื้อมีชีวิต ทำไมไม่มีจิตที่เมตตาสงสาร สัตว์ทุกตัวมีเลือดเนื้อ มีชีวิตเหมือนกัน ทำไมไม่คิดสงสารบ้าง
        ทุก ๆคนควรกลับมากินเจล้างร่างกายชำระจิตใจ ฝึกฝนตนเอง จนสามารถเอาพละกำลังทั้งหมดที่มีมาช่วยเวไนย์สัตว์ พ้นทุกข์ ทำทุกวิถีทางเพื่อให้สัตว์ทั้งหลาย ไม่ต้องถูก""ฆ่า""

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
         การกินอาหารเจ หมายถึง การให้ทานชีวิตเพราะเราไม่เอาชีวิตเขา ก็เท่ากับปลดปล่อยชีวิตให้เขาเหมือนกัน การที่เราไม่กินเนื้อเขา ไม่กินเนื้อสัตว์ เราก็ไม่ฆ่าสัตว์มาเป็นอาหาร หรือมีส่วนช่วยไม่ให้เกิดการฆ่าเรียกว่าเราอโหสิมีเมตตามีน้ำใจไม่ทำร้าย ทั้งๆที่เราไม่มีสิทธิ์ฆ่าชีวิตใคร โดยสัจจะ แต่คนก็ขี้โกงว่าตนมีสิทธิ์ทำได้เพราะคนอำมหิตกว่า หยาบคายกว่า เลวกว่า เก่งกว่า ก็ฆ่าสัตว์ได้เอามากินเลย แต่เราไม่ทำและยังเกื้อกูลอีกด้วย จึงพูดได้ว่าเป็นมหาทานหรือเป็นการทานชีวิตทีเดียว
          การให้ทานเราควรจะเกี่ยวถึงจิตวิญญาณด้วย ในขั้นลึกซึ้งแล้วควรจะให้ถึงจิตใจ การให้ทานต้องหมายถึง ทานทางจิตวิญญาณคือใจต้อง""ให้"" ด้วย
          หนึ่งมื้อกินเจหมื่นชีวิตรอดตาย  หนึ่งมื้อกินเจ คนที่กินเจวันละหนึ่งมื้อก็สามารถบรรเทาโรคภัย หลีกเลี่ยงบาปเคราะห์จะส่งผลให้บุคคลผู้นั้นมีสุขภาพที่แข็งแรงพลานามัยดี อายุยืนยาว สามารถตัดหนี้สินเวรกรรมใหม่ไปได้
          หมื่นชีวิตรอดตาย  หากคนแต่ละคนคิดที่จะกินเจให้ได้เพียงวันละหนึ่งมื้อ คนจำนวนนับหมื่นนับล้านในโลก ก็จะรอดตาย ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานล้มตายไปเพราะโรคภัยร้ายแรงอย่างที่เป็นกันอยู่ทุกวันนี้
          หนึ่งมื้อกินเจ คนที่กินเจหนึ่งมื้อ ก็เท่ากับปลดปล่อยชีวิตสัตว์ให้รอดตายได้อย่างน้อย ๆ ก็ 1 ชีวิต และถ้าหากกินเจทุกวันวันละหนึ่งมื้อไปตลอด สัตว์ก็จะรอดตายเป็นหมื่น ๆ ชีวิต
          หมื่นชีวิตรอดตาย ในชั่วชีวิตของคนที่กินเนื้อ เพียงคนเดียวสัตว์จำนวนมากมายนับหมื่นนับแสนชีิวต ต้องถูกฆ่าตายเพื่อเอามาเป็นอาหาร ฉะนั้นคนที่กินเจตลอดชีวิตเพียงคนเดียวก็จะสามารถช่วยให้ชีวิตสัตว์นับหมื่นนับแสนเหล่านั้นไม่ต้องตายเพราะถูกกินได้เช่นกัน หากมีคนกินเจตลอดชีวิตสักหมื่นคนสัตว์จำนวนเป็นล้าน ๆ ตัวก็จะมีชีวิตอยู่รอดต่อไป เป็นเช่นนี้ได้ ธรรมชาติก็จะคงความสมดุล โลกย่อมจะเกิดความร่มเย็น ทุกชีวิตก็จะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบและสันติสุข
         เพียง ""หนึ่งมื้อ"" คนกินเจก็สามารถรอดตายจากโรคภัยและบาปเคราะห์ได้เป็น ""หมื่น ๆ คน""
         เพียง""หนึ่งมื้อ""  สัตว์ก็ไม่ต้องตายเพราะถูกกิน เป็น""หมื่น ๆ ชีวิต"" เช่นกัน

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
         อาหารจานหนึ่ง ๆ ของคนไม่เคยพ้นจากการ " ฆ่า" เอาชีวิตไม่ว่ากุ้ง หอย ปู ปลา  ฯลฯ  ต้องใช้กี่ชีวิตจึงได้สักจานหนึ่ง บ้างก็กินกันสด ๆ เลือดแดง ๆ ถือว่าเป็นของพิสดารบางอย่าง ทำมาให้ช้าหน่อยก็พาลอารมณ์เสีย คนไม่เคยได้คิดว่าของในจานที่กินอย่างเอร็ดอร่อยล้วนมาจากความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส  ทุก ๆ วันเมื่อฟ้าเริ่มสางเพชฌฆาตนับจำนวนไม่ถ้วนถือมีดลงมือประหาร เพียงไม่กี่ชั่วโมงชีวิตของสัตว์ทั่วทุกหนทุกแห่งนับแสนนับล้านตัวต้องดับสิ้นลง ถ้าเอาซากศพและกระดูกมากองรวมกัน ก็จะสูงเท่าภูเขามหึมา ถ้าเอาเลือดที่ไหลหลั่งมารวมกัน ก็จะสามารถย้อมแม่น้ำได้ทั่วทุกสายในโลก มันเป็นอยู่เช่นนี้ทุกวัน ๆ ชั่วนาตาปี ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ จะพบแต่คมมีดกรีดแหวะท้อง เชือดเฉือนทิ่มแทงหัวใจ แล้วถลกหนัง แยกเนื้อ ถอดกระดูก โยนลงในกระทะน้ำเดือด เสียงร้องโหยหวนดังกึกก้องยิ่งกว่าเสียงฟ้าร้อง ความทุกข์ทรมานที่ชีวิตสัตว์ทั้งหลายได้รับ
        ถ้าเป็นคนก็ไม่แตกต่างจากการถูกฆ่าฟันล้างผลาญทั้งเมืองหมดสิ้นทั้งลูกหลานอันเป็นที่รัก ผู้ที่มีเมตตาจิตเมื่อได้พบเห็นสภาพที่โรงฆ่าสัตว์ ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า""นรกมันอยู่บนโลกเรานี่เอง"" ช่างน่าอเนจอนาถ เจ็บปวดใจยิ่งนักสุดจะบรรยายคนได้สร้างบาปอันมหันต์ขึ้นด้วยน้ำมือตน บาปเวรที่คนก่อไว้เพียงให้ได้"ความอร่อยลิ้น" แรงอาฆาตจองเวรเคียดแค้นนับหมื่นนับล้านชีวิตนับชาติไม่ถ้วน ทับถมให้คนต้องตกอยู่ในการเข่นฆ่าประหัตประหาร ล้างผลาญชีวิตกันไม่สิ้นสุด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทรงตรัสว่า""ถ้าอยากรู้ว่า ทำไมโลกนี้จึงมีสงครามก็ให้ไปฟังเสียงที่โรงฆ่าสัตว์""
        ความสงบสุขที่แท้จริง จะเกิดได้จากการกินและอยู่อย่างไม่เบียดเบียนกันเท่านั้น ที่ใดไม่มีการเบียดเบียน ที่นั่นก็คือ""สวนสวรรค์บนแผ่นดิน"" ดังนั้นเราทุกคนก็สามารถที่จะสร้างสวนสวรรค์ขึ้นมาได้โดยไม่ต้องมีที่ดินแม้สักฝ่ามือเดียว จงสร้างมันขึ้นในใจของเราเองนั้นแหละ ใจที่ไม่คิดเบียดเบียน ใจที่เปี่ยมด้วยเมตตา กรุณา คือ สวนสวรรค์ของมวลมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งปวง
       :)  โปรดเมตตารักสัตว์      อย่าได้กินเนื้อมันเลย

       :)  วันก่อนฆ่ากันและกัน  วันนี้รักกันและกัน  ไม่แยกสัตว์แยกเรา  ทั่วแผ่นดินครอบครัวเดียวกัน
   
       

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
         
        พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง

ดินให้กำเนิดชีวิตได้
พืชพันธุ์ธัญญาหารขึ้นมาจากดินไหม (ขึ้น )
ก็คือข้าวและผักที่เรากิน
สิ่งนี้เรียกว่าฟ้าดินให้กำเนิด จึงสมควรที่จะกินได้
แต่ว่าเนื้อสัตว์นั้น มีพ่อแม่เป็นของตน
ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนที่ให้กำเินิดลูกออกมาให้คนอื่นกิน
เหมือนกับมนุษย์ให้กำเนิดลูกมาให้ใครกิน ( ไม่มี )
เพราะฉะนั้นสัตว์ก็เช่นเดียวกัน ร้องได้เหมือนกัน
มีเลือดเหมือนกัน นัยน์ตาสามารถบ่งบอกความรู้สึกได้เหมือนกัน
เพราะฉะนั้นคนที่คิดกิน อย่าบอกว่าเขาเกิดมาให้เรากิน

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
          ใครเขาเกิดมาให้ศิษย์กิน  เมื่อสักครู่ศิษย์พี่บอกว่า ท่านไม่ชอบให้ใครมาเอารัดเอาเปรียบ กดขี่ข่มเหงใช่ไหม (ใช่) อยู่ ๆถ้าเราเิกิดมาตีท่าน ท่านชอบหม (ไม่ชอบ)อย่างน้อยจะตีเราก็บอกสักหน่อยหนึ่งก็ยังดีใช่ไหม หรือไม่จะมาตีเราอย่างน้อยก็ต้องรู้จักกัน ไม่ใช่ยังไม่รู้จักกันเลยก็ตี ท่านก็ไม่ชอบใช่หรือเปล่า
          เหมือนเวลาท่านกินเนื้อสัตว์ ถ้าเราบอกว่าคนใหญ่มีหน้าที่ มีอำนาจ มีความยิ่งใหญ่สามารถที่จะสั่งคนเล็กได้ โลกนี้ก็ไม่ค่อยยุติธรรมใช่ไหม (ใช่)  แต้ว่าคนมีพละกำลังเหนือกว่าสามารถทำทุกอย่างได้ตามอำเภอใจ โดยที่คนเล็กไม่มีโอกาสได้ปริปากพูด อย่างนั้นก็ไม่ใช่กฏของธรรมชาติ ที่ถูกต้องใช่ไหม (ใช่) ฉะนั้น เราจะบอกว่าสัตว์เล็กเกิดมาเพื่อสัตว์ใหญ่ได้หรือเปล่าก็ไม่ได้ใช่หรือไม่ เราอยู่ร่วมกันเวลาจะทำอะไรก็ต้องเห็นอกเห็นใจกัน เข้าใจกันบ้างใช่หรือไม่ (ใช่) หรือไม่จะเอาของเราไปก็ต้องขอเราสักหน่อยหนึ่งใช่ไหม แล้วตอนนี้เราทำกับใครบ้าง ทำกับสัตว์ทั้งหลายที่เป็นอาหารใช่ไหม ยังไม่ทันขอเขาเลย ไม่ทันขอด้วยแถมยังสั่งฆ่าเลยทันที เด็ดขาดไหม มีเหตุผลหรือเปล่า (ไม่มี) มนุษย์ชอบเป็นคนที่มีเหตุผลใช่หรือเปล่า (ใช่) อย่างน้อยเธอต้องพูดมาก่อนสิ อยู่ ๆ เธอจะมาฆ่าฉันได้อย่างไร เธอยังไม่มีเหตุผล เธอยังไม่ชอบเลย ใช่หรือไม่(ใช่)
          ศิษย์น้องก็ไม่ชอบที่อยู่ ๆ จะมีใครมาสั่งลงโทษศิษย์น้องโดยไม่มีเหตุผล แล้วสัตว์ล่ะ หรือว่าศิษย์พี่กำลังพูดว่า สัตว์เป็นคนที่พูดได้ มีความรู้สึก มีเหตุผล เป็นอย่างนั้นไม่ หรือว่าไม่จำเป็นที่ต้องแคร์ความรู้สึก จำเป็นไหม (จำเป็น) ศิษย์น้องคิดไหมว่า ทำไมสัตว์ก็มีความรู้สึกเหมือนกัน ทำไมศิษย์พี่ถึงพูดว่า สัตว์ก็มีความรู้สึก และอะไรที่เป็นสิ่งที่ทำให้รู้ว่าสัตว์ก็มีความรู้สึก มีความผูกพันกัน นั่นก็คือเวลาสัตว์มีลูกขึ้นมาก็ปกป้องลูก หาอาหารให้ลูกกิน ใช่หรือเปล่า (ใช่) สิ่งนี้วัดได้ว่า สัตว์ก็มีความรู้สึกรักและหวงแหนลูกของตนเองใช่หรือไม่ (ใช่) เวลาใครมาทำร้ายพี่น้องของเรา เรายังรู้สึกโกรธใช่หรือไม่ (ใช่) เวลามาฆ่าพ่อแม่เราเรายังรู้สึกว่าแค้นนี้ต้องชำระ จำไว้นะว่ากินเข้าไปเท่าไรแล้ว
           ( หมายเหตุ !  พระโอวาทศิษย์พี่นาจาเมตตา ที่ฉงเต๋อฝอถัง จ.กาญจนบุรี ๒๑ มีนาคม ๒๕๔๒ )

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
  • กระทู้: 6,382
       
                 พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง

         ไม่ละการเบียดเบียนแล้วจะเป็นพุทธะได้อย่างไร  จะเรียกว่าเมตตาได้อย่างไร กินโรคเข้าไปกินอย่างไร เราไม่อยากจะเป็นพยาธิ แต่เรากินเนื้อสัตว์ที่มีพยาธิเข้าไป เป็นโรคพระยาธิไหม (เป็น) เราไม่อยากเจ็บป่วย แต่เอาตัวเราไปตากฝนตากแดดเป็นไหม (เป็น) เราไม่อยากที่จะปวดหลัง แต่ชอบนอนตามใจตนเอง ผิดท่าผิดทาง ถามว่าปวดหลังไหม (ปวด) เราไม่อยากเมื่อยขา ปวดเมื่อย แต่เราชอบกินสัตว์ปีกเมื่อยไหม (เมื่อย) นี่เป็นสิ่งที่วิทยาการสมัยใหม่ ได้ศึกษามาเรียบร้อย  อาจารย์นั้นไม่ได้พูดอะไรที่เกินเลย โรคภัยเกิดจากการสั่งสมของเรา ไม่ว่าจะเป็นการกิน ไม่ว่า่่จะเป็นการอยู่  กินเจอย่าเบียดเบียนคนอื่นไม่เช่นนั้นอาจารย์จะเอาอะไรไปอ้างกับวิญญาณต่าง ๆ ให้เขาอภัยให้ ตอนนี้สบายแต่วันหน้าไม่รู้
          ถ้าหวกว่าเรากินเจ คนอื่นกินชอหมด แปลกไหม (ไม่แปลก) คนที่กินเจแล้วบอกแปลกเพราะว่าเขาเคยมาแล้วใช่หรือไม่ (ใช่) เคยไปอยู่ในหมู่คนจำนวนมากที่เขากินชอแล้วเรากินเจ สุดท้ายเขาบอกว่านี่ตัวประหลาด แต่ถามว่าตัวประหลาดตัวนี้เป็นอะไรเป็นคนที่มีความเมตตาใช่หรือไม่ (ใช่) ปลาก่อนตายเขาทำอย่างไร เขาทุบหัวใช่หรือเปล่า (ใช่ )ปลาดิ้นจนวาระสุดท้ายไหม ฆ่าไก่ทำอย่างไร (เชือด ) ฆ่าหมูทำอย่างไร (แทงคอ ) ฆ่าวัวทำอย่งไร เขาร้องไหมบางตัวเมื่อมีสำนึกมาก มีความเป็นคนสูงขนาดร้องไห้ก็ยังมีใช่หรือไม่ (ใช่ ) เพราะฉะนั้นถามว่าคนที่กินเจแปลกหรือคนที่กินชอแปลก (กินเจ ) อยากมาแปลกประหลาดด้วยกันไหม ถ้าศิษย์ไม่แปลกประหลาดในวันนี้ก็ต้องบอกว่าคนกินเจแปลกประหลาด
          แต่คนที่กินเจแล้วจิตญาณจะใสกว่าคนที่กินชอ เพราะคนที่กินชอนั้น กินเอาไออาฆาตของสัตว์ต่าง ๆ เข้าไปในที่สุด ยามที่เราต้องการจะบำเพ็ญจะทำอย่างไรก็ไม่ยอมสว่าง ทำอย่างไรก็ไม่ใส เหมือนเราขัดพื้นแล้วไม่สะอาดสักที เพราะเรานั้นไม่ยอมใช้น้ำยาใช่หรือไม่ (ใช่ )
          เพราะฉะนั้นตอนนี้จึงบอกว่า ศิษย์ของอาจารย์ต้องพยายามที่จะ ลด ละ เลิก ในการทานเนื้อสัตว์ ถ้าหากว่าทำได้แม้ว่าจะประหลาดในวงสังคม แต่ไม่ประหลาดในแดนฟ้า ไม่ประหลาดในการบำเพ็ญธรรม
                   

Tags:
 

มหาปณิธาน

พระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

มหาปณิธานพระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ (地藏王菩薩)

“...เพื่อหมู่สัตว์ทั้งหกภูมิผู้มีบาปทุกข์ ข้าพเจ้าจะใช้วิธีการต่างๆ ช่วยให้หลุดพ้นจนหมดสิ้น แล้วตัวข้าพเจ้าจึงจะสำเร็จพระพุทธมรรค”