汉语拼音 hànyŭ pīnyīn ฮั่นอวี่ พินอิน
สัทอักษรภาษาจีน (พินอิน )
ก่อนที่เราจะเริ่มเรียนรู้ภาษาจีน เราคงต้องมาทำความรู้จักกับ "PinYin"หรือ "พินอิน" กันก่อน "PinYin" นั้นเป็นตัวช่วยในการออกเสียงอักษรจีนให้ถูกต้อง ซึ่งบางตัวนั้นออกเสียงยาก และยากที่จะใช้ภาษาไทยในการจด ดังนั้นจึงใช้ตัว Phonetics กัน เพราะเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ ซึ่งผู้เรียนสามารเข้าใจ และจดจำได้่ง่าย และการสอนภาษาจีนในเว็บไซท์นี้ก็จะใช้ "PinYin" ในการกำกับเสียง เพื่อความถูกต้องคะ
"PinYin" หมายถึงสัญลักษณ์หรือตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เรานำมาใช้เพื่อการสะกดคำ ถ้าเทียบเป็นภาษาไทยคงไม่ต่างจากสระและพยัญชนะในบ้านเรา เพียงแต่ว่า "PinYin" จะไม่นำมาใช้ทั้งในภาษาพูดและเขียน แต่จะใช้เพียงแค่ในกรณีของการสะกดคำเพื่อออกเสียงเท่านั้น ตัวอย่าง เช่น
人 pinyin=rén
เนื่องจากจำนวนของพินอินทั้งหมดมีค่อนข้างเยอะหากอธิบายทีเดียวอาจจะจำไม่ไหว ดังนั้นดิฉันจแบ่งออกเป็นบท โดย ดูทีละบท ซึ่งจะค่อยๆทำความเข้าใจกับมันทีละน้อยกัน นอกจากนี้ถ้าสังเกตจะเห็นว่า บนอักษรภาษาอังกฤษ จะมีเส้นขีดอยู่ อันนั้นเป็นเส้นกำหนดโทนเสียง ซึ่งจะมีทั้งหมด 4 โทนเสียง ซึ่งจะมีสัญลักษณ์ดังต่อไปนี้
ˉ สัญลักษณ์ตัวแรก เป็นเสียงธรรมดา เทียบกับภาษาไทยก็คือเสียงสามัญนั่นเอง
/ สัญลักษณ์ตัวที่ 2 เทียบแล้วก็คงเป็นเสียงจัตวา
ˇ สัญลักษณ์ที่ 3 เทียบได้เท่ากับเสียงเอก
\ สัญลักษณ์ที่ 4 เทียบได้เท่ากับเสียงโท
สมมุติว่า เราเจอ "PinYin" คำว่า "มา" เมื่อผันเสียงตามหลักภาษาจีน ก็จะสามารถผันเสียงได้ดังต่อไปนี้ "มา หมา หม่า ม่า"
โดยพินอินจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ด้วนกัน นั่นคือ
พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์
声母 shēngmŭ เซิงหมู่ พยัญชนะ
1. พยัญชนะต้นของภาษาจีนมี 21 เสียง b (ปัว / ปอ) p (พัว / พอ) m (มัว / มอ) f (ฟัว / ฟอ)
d (เตอ) t (เธอ) n (เนอ) l (เลอ)
g (เกอ) k (เคอ) h (เฮอ) j (จี)
q (ชี) x (ซี) z (จือ) c (ชือ)
s (ซือ) zh (จรือ) ch (ชรือ) sh (ซรือ) r (ยรือ)
หมายเหตุ zh ch sh r ให้ออกเสียงโดยยกปลายลิ้นขึ้นแตะบริเวณเพดานปาก ในการสะกดเสียงอ่านแบบไทยนั้น ผู้เขียนได้เลือกอักษร “ ร ” เป็นตัวแทนการออกเสียงยกลิ้นขึ้น มิได้หมายถึงให้สะกดเป็น จะ-รือ ชะ-รือ ซะ – รือ ยะ-รือ แต่ให้ออกเสียงควบกัน
2. พยัญชนะต้นกึ่งสระมี 2 เสียง คือ y (i อี) และ w (u อู)
韵母 yùnmǔ อวิ้นหมู่ สระ แบ่งออกเป็นสระเดี่ยว และสระผสม ดังนี้
1. 单韵母 dān yùnmǔ ตาน อวิ้นหมู่ สระเดี่ยว มี 6 เสียง ดังนี้
a (อา) o (โอ) e (เออ) i (อี) u (อู) ü ( อวี)
** สระ ü จะออกเสียงสระ u (อู) ควบกับ สระ i (อี) ( u + i ) โดยจุดสองจุดที่อยู่ด้านบน u เท่ากับสระ i นั่นเอง
หมายเหตุ บางตำรากล่าวถึงสระเดี่ยวไว้ว่ามี 8 เสียง ดังนี้
a (อา) o (โอ) e (เออ) i (อี) u (อู) ü ( อวี) ê (เอ) er (เออร)
2. 双韵母 shāung yùnmǔ ซวง อวิ้นหมู่ สระผสม สังเกตได้ว่าการออกเสียงสระผสม จะเกิดจากเทคนิคการลากเสียงของสระแต่ละเสียงมาชนกัน
แบบฝึกหัด 2.1
a (อา) + o (โอ) = ao (อาว) i (อี) + u (อู) = iu (อิว) e (เออ) + i (อี) = ei (เอย)
a (อา) + i (อี) = ai (ไอย) u (อู) + i (อี) = ui (อุย) o (โอ) + u (อู) = ou(โอว)
u (อู) + o (โอ)= uo (อัว) u (อู) + a (อา)= ua (อวา) เป็นต้น
หากสระ e (เออ) ตามท้ายสระตัวอื่นจะออกเสียงเป็นสระ ê (เอ)
แบบฝึกหัด 2.2
i (อี) + e (เอ) = ie (เอีย) ü (อวี) + e (เอ) = üe (เอวีย)
กรณีที่มีเสียงพยัญชนะท้าย คือ - n หรือ - ng ตามหลังเสียงสระ เสียง - n จะเทียบได้กับเสียง “แม่กน” ในภาษาไทย และ - ng จะเทียบได้กับเสียง “แม่กง” ในภาษาไทย ส่วนเสียง - r ด้านท้ายนั้นกำกับไว้เพื่อแสดงว่าเป็นเสียงที่จำเป็นต้องม้วนหดลิ้นให้ยกขึ้นไปแตะบริเวณเพดานแข็๋ง
แบบฝึกหัด 2.3
a (อา) --- an (อาน) a (อา) --- ang (อาง) o (โอ) --- ong (อง) e (เออ) --- en (เอิน)
e (เออ) --- eng (เอิง) ia (เอียะ) --- ian (เอียน) i (อี) --- in (อิน) ia (เอียะ) --- iang (เอียง)
i (อี) --- ing (อิง) i (อี) --- iong ( อี+อง) ua (อวา) --- uan (อวาน)
ua (อวา) --- uang (อวาง) u (อู) --- un (อูน) ü (อวี) --- ün (อวิน)
üa (เอวียะ) --- üan (เอวียน) e (เออ) --- er (เออ-ร)
ในบรรดาสระเดี่ยว 6 เสียง จะมีอยู่ 2 เสียง คือ เสียงสระ i (อี) และ u (อู) ที่ไม่สามารถใช้เป็นสระขึ้นต้นพยางค์ตามลำพังได้ จึงจำเป็นที่จะต้องมีพยัญชนะกึ่งสระ y (อี) และ w (อู) มาช่วยกำกับแทนที่สระ i (อี) และ u (อู)
แบบฝึกหัด 2.4
i (อี) --- yi (อี) ia (เอียะ) --- ya(เอียะ) iao (เอียว) --- yao (เอียว)
ie (อีเย) --- ye (เอีย) iou (อิว)--- you (อิว) ian (เอียน) --- yan (เอียน)
in (อิน) --- yin (อิน) iang (เอียง) --- yang(เอียง) ing (อิง) --- ying(อิง)
iong ( อี+อง) --- yong( อี+อง) u (อู) --- wu (อู) ua (อวา) --- wa (อวา)
uo (อัว) --- wo(อัว) uai (อวาย) --- wai (อวาย) uei (เอวย) -- wei (เอวย)
uan (อวาน) --- wan(อวาน) uen (อู+เอิน) -- wen (อู+เอิน) uang (อวาง) -- wang (อวาง) ueng (อู+เอิง) -- weng (อู+เอิง)