collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: สัทอักษรภาษาจีน (พินอิน )  (อ่าน 11975 ครั้ง)

phatcharee
  • บุคคลทั่วไป
汉语拼音 hànyŭ pīnyīn ฮั่นอวี่ พินอิน
สัทอักษรภาษาจีน (พินอิน )

     ก่อนที่เราจะเริ่มเรียนรู้ภาษาจีน เราคงต้องมาทำความรู้จักกับ "PinYin"หรือ "พินอิน" กันก่อน "PinYin" นั้นเป็นตัวช่วยในการออกเสียงอักษรจีนให้ถูกต้อง ซึ่งบางตัวนั้นออกเสียงยาก และยากที่จะใช้ภาษาไทยในการจด ดังนั้นจึงใช้ตัว Phonetics กัน เพราะเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ ซึ่งผู้เรียนสามารเข้าใจ และจดจำได้่ง่าย และการสอนภาษาจีนในเว็บไซท์นี้ก็จะใช้ "PinYin" ในการกำกับเสียง เพื่อความถูกต้องคะ
"PinYin" หมายถึงสัญลักษณ์หรือตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เรานำมาใช้เพื่อการสะกดคำ ถ้าเทียบเป็นภาษาไทยคงไม่ต่างจากสระและพยัญชนะในบ้านเรา เพียงแต่ว่า "PinYin" จะไม่นำมาใช้ทั้งในภาษาพูดและเขียน แต่จะใช้เพียงแค่ในกรณีของการสะกดคำเพื่อออกเสียงเท่านั้น ตัวอย่าง เช่น
人 pinyin=rén
เนื่องจากจำนวนของพินอินทั้งหมดมีค่อนข้างเยอะหากอธิบายทีเดียวอาจจะจำไม่ไหว ดังนั้นดิฉันจแบ่งออกเป็นบท โดย ดูทีละบท ซึ่งจะค่อยๆทำความเข้าใจกับมันทีละน้อยกัน นอกจากนี้ถ้าสังเกตจะเห็นว่า บนอักษรภาษาอังกฤษ จะมีเส้นขีดอยู่ อันนั้นเป็นเส้นกำหนดโทนเสียง ซึ่งจะมีทั้งหมด 4 โทนเสียง ซึ่งจะมีสัญลักษณ์ดังต่อไปนี้
   ˉ สัญลักษณ์ตัวแรก เป็นเสียงธรรมดา เทียบกับภาษาไทยก็คือเสียงสามัญนั่นเอง
     /   สัญลักษณ์ตัวที่ 2 เทียบแล้วก็คงเป็นเสียงจัตวา
     ˇ  สัญลักษณ์ที่ 3 เทียบได้เท่ากับเสียงเอก
     \  สัญลักษณ์ที่ 4 เทียบได้เท่ากับเสียงโท
สมมุติว่า เราเจอ "PinYin" คำว่า "มา" เมื่อผันเสียงตามหลักภาษาจีน ก็จะสามารถผันเสียงได้ดังต่อไปนี้ "มา หมา หม่า ม่า"
โดยพินอินจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ด้วนกัน นั่นคือ
 พยัญชนะ   สระ  วรรณยุกต์
 声母 shēngmŭ เซิงหมู่ พยัญชนะ

     1. พยัญชนะต้นของภาษาจีนมี 21 เสียง
           b (ปัว / ปอ)         p (พัว / พอ)             m (มัว / มอ)             f (ฟัว / ฟอ)
     d (เตอ)               t (เธอ)                     n (เนอ)                   l (เลอ)    
   g (เกอ)               k (เคอ)                    h (เฮอ)                   j (จี)      
                      q (ชี)                  x (ซี)                       z (จือ)                    c (ชือ)
                     s (ซือ)               zh (จรือ)                   ch (ชรือ)                 sh (ซรือ)        r (ยรือ)
 
        หมายเหตุ     zh    ch    sh    r ให้ออกเสียงโดยยกปลายลิ้นขึ้นแตะบริเวณเพดานปาก ในการสะกดเสียงอ่านแบบไทยนั้น ผู้เขียนได้เลือกอักษร “ ร ” เป็นตัวแทนการออกเสียงยกลิ้นขึ้น มิได้หมายถึงให้สะกดเป็น จะ-รือ   ชะ-รือ   ซะ – รือ   ยะ-รือ แต่ให้ออกเสียงควบกัน
 
     2. พยัญชนะต้นกึ่งสระมี 2 เสียง คือ
        y (i อี)   และ   w (u อู)
 
韵母 yùnmǔ อวิ้นหมู่ สระ แบ่งออกเป็นสระเดี่ยว และสระผสม ดังนี้
1. 单韵母 dān yùnmǔ ตาน อวิ้นหมู่ สระเดี่ยว มี 6 เสียง ดังนี้
        a (อา)      o (โอ)       e (เออ)        i (อี)         u (อู)       ü ( อวี)
 ** สระ ü จะออกเสียงสระ u (อู) ควบกับ สระ i (อี) ( u + i ) โดยจุดสองจุดที่อยู่ด้านบน u เท่ากับสระ i นั่นเอง
   หมายเหตุ บางตำรากล่าวถึงสระเดี่ยวไว้ว่ามี 8 เสียง ดังนี้
      a (อา)       o (โอ)      e (เออ)      i (อี)        u (อู)       ü ( อวี)       ê (เอ)      er (เออร)
2. 双韵母 shāung yùnmǔ ซวง อวิ้นหมู่ สระผสม สังเกตได้ว่าการออกเสียงสระผสม จะเกิดจากเทคนิคการลากเสียงของสระแต่ละเสียงมาชนกัน
      แบบฝึกหัด 2.1  
     a (อา) + o (โอ) = ao (อาว)           i (อี) + u (อู) = iu (อิว)           e (เออ) + i (อี) = ei (เอย)
     a (อา) + i (อี) = ai (ไอย)               u (อู) + i (อี) = ui (อุย)           o (โอ) + u (อู) = ou(โอว)
      u (อู) + o (โอ)= uo (อัว)                u (อู) + a (อา)= ua (อวา)   เป็นต้น
       หากสระ e (เออ) ตามท้ายสระตัวอื่นจะออกเสียงเป็นสระ ê (เอ)
 

    แบบฝึกหัด 2.2
      i (อี) + e (เอ) = ie (เอีย)                ü (อวี) + e (เอ) = üe (เอวีย)
     กรณีที่มีเสียงพยัญชนะท้าย คือ - n หรือ - ng ตามหลังเสียงสระ เสียง - n จะเทียบได้กับเสียง “แม่กน” ในภาษาไทย และ - ng จะเทียบได้กับเสียง “แม่กง” ในภาษาไทย ส่วนเสียง - r ด้านท้ายนั้นกำกับไว้เพื่อแสดงว่าเป็นเสียงที่จำเป็นต้องม้วนหดลิ้นให้ยกขึ้นไปแตะบริเวณเพดานแข็๋ง
 
      แบบฝึกหัด 2.3
     a (อา) --- an (อาน)              a (อา) --- ang (อาง)          o (โอ) --- ong (อง)        e (เออ) --- en (เอิน)
     e (เออ) --- eng (เอิง)           ia (เอียะ) --- ian (เอียน)       i (อี) --- in (อิน)             ia (เอียะ) --- iang (เอียง)
     i (อี) --- ing (อิง)                 i (อี) --- iong ( อี+อง)       ua (อวา) --- uan (อวาน)
    ua (อวา) --- uang (อวาง)      u (อู) --- un (อูน)               ü (อวี) --- ün (อวิน)
    üa (เอวียะ) --- üan (เอวียน)   e (เออ) --- er (เออ-ร)
         ในบรรดาสระเดี่ยว 6 เสียง จะมีอยู่ 2 เสียง คือ เสียงสระ i (อี) และ u (อู) ที่ไม่สามารถใช้เป็นสระขึ้นต้นพยางค์ตามลำพังได้ จึงจำเป็นที่จะต้องมีพยัญชนะกึ่งสระ y (อี) และ w (อู) มาช่วยกำกับแทนที่สระ i (อี) และ u (อู)
 
        แบบฝึกหัด 2.4
        i (อี) --- yi (อี)                 ia (เอียะ) --- ya(เอียะ)         iao (เอียว) --- yao (เอียว)  
       ie (อีเย) --- ye (เอีย)        iou (อิว)--- you (อิว)            ian (เอียน) --- yan (เอียน)
       in (อิน) --- yin (อิน)         iang (เอียง) --- yang(เอียง)   ing (อิง) --- ying(อิง)
       iong ( อี+อง) --- yong( อี+อง)         u (อู) --- wu (อู)   ua (อวา) --- wa (อวา)
       uo (อัว) --- wo(อัว)          uai (อวาย) --- wai (อวาย)  uei (เอวย) -- wei (เอวย)
       uan (อวาน) --- wan(อวาน)       uen (อู+เอิน) -- wen (อู+เอิน)       uang (อวาง) -- wang (อวาง)   ueng (อู+เอิง) -- weng (อู+เอิง)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17/09/2010, 15:35 โดย ติ๊กน้อย »

Tags: