พ่อเฒ่าใต้แสงจันทร์
(เอวี้ย เซี่ย เหล่า เหยิน)
สมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 937-975) มีชายคนหนึ่งชื่อ อุ่ยกู้ ครั้งหนึ่งเขาเดินทางมาที่เมืองซ่ง และเข้าพักแรมในโรงเตี้ยม คืนวันหนึ่งเขามองออกไปที่หน้าต่างเห็นพ่อเฒ่าคนหนึ่ง ยืนอยู่ใต้แสงจันทร์ในสวน ตรวจหาข้อความอะไรจากหนังสือเล่มใหญ่หนาเตอะในมือ โดยอาศัยแสงสว่างจากดวงจันทร์วันเพ็ญอุ่ยกู้จึงเข้าไปถามว่า "หนังสืออะไรหรือพ่อเฒ่า" "บัญชีบุพเพสันนิวาสของชายหญิง" พ่อเฒ่าตอบ "แล้วด้ายแดงในย่ามของพ่อเฒ่าล่ะ" อุ่ยกู้ถามอีก พ่อเฒ่าจึงอธิบายว่า "เป็นด้ายสำหรับผูกข้อเท้าชายหญิง แม้ทั้งสองจะเป็นศัตรูหรืออยู่ห่างไกลกันแสนไกล เมื่อข้าผูกด้ายแดงนี้ให้แล้ว ทั้งสองก็จะต้องมาครองคู่กัน" อุ่ยกู้และพ่อเฒ่าคุยกันพลางพร้อมพากันเดินเข้ามาในย่านค้าข้าวในเมือง ขณะนั้น หญิงชราตาบอดคนหนึ่งอุ้มเด็กหญิงอายุประมาณ 3 ขวบ เดินผ่านมาตรงหน้า พ่อเฒ่าจึงพูดกับอุ่ยกู้ว่า "เด็กคนนี้แหล่ะ ต่อไปจะเป็นภรรยาของเจ้า" ว่าแล้วพ่อเฒ่าก็หายวับไป อุ่ยกู้ขัดใจยิ่งนัก ไม่ยอมรับว่าเด็กหญิงลูกของหญิงตาบอดคนนี้คือภรรยาของเขาในอนาคต จึงสั่งให้ลูกน้องตามไปฆ่าเด็กหญิงคนนั้นเสีย ลูกน้องของอุ่ยกู้ จำใจต้องทำตามบัญชาของเจ้านาย เขาหลับตาเงื้อมืดแทงไปตามเป้าหมายแล้วรีบวิ่งหนีไป เรื่องเงียบหายไป 14 ปี ต่อมาอุ่ยกู้ก็แต่งานกับบุตรีของท่านผู้ตรวจการหวังไท่ เธอผู้นั้นมีรูปโฉมงดงามยิ่งนัก แต่น่าเสียดายที่หว่างคิ้วมีรอยแผลเป็น อุ่ยกู้มารู้ภายหลังว่าเธอคือเด็กหญิงที่เขาสั่งลูกน้องให้ไปฆ่านั่นเอง คืนวันเกิดเหตุ หญิงชราซึ่งเป็นคนรับใช้เก่าแก่กำลังอุ้มเธอออกไปเดินเล่นด้วยจิตสำนึกของลูกน้องของอุ่ยกู้ เธอจึงรอดตายจากการถูกมืดแทงตรงๆ แต่รอยแผลเป็นที่ถูกมืดเฉี่ยวไปก็มีผลเตือนใจอุ่ยกู้ไปตลอดชีวิต จากเหตุการณ์ความเป็นมาของเรื่องนี้ ชาวจีนจึงเรียกพ่อสื่อแม่สื่อว่า "พ่อเฒ่าใต้แสงจันทร์"