collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณวิเศษของหลงเทียนเปี่ยวสารเทวนาคราช  (อ่าน 15936 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
หอฟังธรรม

        หอแสดงธรรมของพระโพธิสัตว์กษิติครรภ์นั้นก้างใหญ่มาก และยังมีการแบ่งเป็นสามระดับ

        ระดับต้น   คุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าไปฟังธรรมคือ มีลูกหลานได้รับวิถีธรรมแล้ว ชื่อจารึกอยู่ในสารคำขอ วิญญาณยบรรพชนที่ได้รับการพักโทษจากกรณีนี้จะมามาฟังธรรม ซึ่งบรรยายโดยพระโธิสัตว์กษิติครรภ์ แต่ไม่มีเก้าอี้ให้นั่ง
        ระดับกลาง   เมื่อลูกหลานได้รับวิถีธรรมแล้ว ตั้งใจศึกษาบำเพ็ญหนึ่งปีหรือครึ่งปี วิญญาณบรรพชนจึงได้เลื่อนมาอยู่ระดับกลาง
        ระดับสูง      เมื่อลูกหลานรับวิถีธรรมแล้ว ศึกษาจนเข้าใจปฏิบัติถือศีลกินเจ งดเว้นการทานเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต และเปิดพุทธสถานเป็นผู้ดูแลพุทธสถาน  วิญญาณบรรพชนก็จะได้เลื่อนขึ้นเป็นระดับบน จะได้ฟังพระโพธิสัตว์กษิติครรภ์บรรยายธรรมอยู่เป็นประจำ

        ในบริเวณหอฟังธรรมพระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ คุณสวีได้เห็นวิญญาณกลุ่มหนึ่งนั่งก้มหน้าก้มตา สร้างความประหลาดใจยิ่งนัก ด้วยความสงสัย คุณสวีจึงเอ่ยถามวิญญาณเหล่านั้น

คุณสวี   :  พวกคุณมีโอกาสมาอยู่ที่นี่ สมควรที่จะดีใจมิใช่หรือ ทำไมถึงได้ก้มหน้าก้มตา สีหน้าเศร้าซึมอย่างนั้น

วิญญาณ   :  พวกเราล้วนดีใจที่มาอยู่ที่นี่ เพราะลูกหลานได้รับวิถีธรรม แต่ว่าลูกหลานที่ได้รับวิถีธรรมแล้วบำเพ็ญได้ไม่กี่ปีก็มีอันล้มเลิก ไม่บำเพ็ญจริง นี่คือสาเหตุที่เราเศร้าใจ

คุณสวี   :  ทำไมพวกคุณไม่ไปเข้าฝันลูกหลานล่ะ

วิญญาณ   :  การเข้าฝันแต่ละครั้ง จำจะต้องอาศัยบูยกุศลอย่างมาก เป็นการแลกกับโอกาสในการให้ลูกหลานฝันเห็นแต่กลับไม่เชื่อไม่สนใจ มิเท่ากับสูญเสียบุญกุศลโดยเปล่าประโยชน์หรือ และที่สำคัญพวกเราไม่มีโอกาสจะสร้างบุญกุศลด้วยตนเองแล้ว จะเสี่ยงก็กลัวผิดหวัง

คุณสวี   :  ถ้าเช่นนั้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ ข้าพเจ้าจะนำไปบอกกล่าวให้คนบนโลกมนุษย์ได้ทราบ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14/01/2019, 01:27 โดย nakdham »

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
ตามหาหลงเทียนเปี่ยว

        หลายปีผ่านมา  คุณสวีมีโอกาสเห็นเหตุการณ์สำคัญ ๆ ในยมโลกมากมาย แม้กระทั่งการถอนชื่อจากบัญชีเกิดตาย ของผู้ที่มีชื่อปรากฏในสารคำขอหลงเทียนเปี่ยว ในใจของคุณสวีเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะหาสารคำขอกับการรับวิถีธรรม  ท่านฉิน ก่วง ฮ๋วง ก็ไม่เคยอธิบายให้ชัดเจนถึงลักษณะของผู้ที่จะสามารถถ่ายทอดวิถีธรรมให้คุณสวีได้ทราบ คุณสวีจึงคิดเอาเองว่า บุคคลที่จะถ่ายทอดวิถีธรรมได้จะต้องมีบารมีแกร่งกล้า คงจะเป็นผู้ที่ออกบวชเป็นพระ
สงฆ์ ที่มีชื่อเสียงอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้คุณสวีจึงได้ออกตามหาสถานที่ถ่ายทอดวิถีธรรมทั่วเมืองเจียอี้  แต่กลับผิดหวัง หลายแห่งที่คุณสวีไปไม่มีผู้จะถ่ายทอดวิธีธรรมให้ได้

        ด้วยความพยายามคุณสวีออกค้นหาจากเมืองเจียอี้ จนออกไปถึงเมืองก่วงจื่อหลิ่ง จนผ่านเซียนเฉ่าผู จนกระทั่งถึงวัดเต้าเซียน เมื่อถึงวัดคุณสวีสอบถามพระในวัดว่าที่นี่มีเต๋าหรือเปล่า จึงเกิดความสับสนเรื่องภาษาขึ้น เพราะภาษาไต้หวัน คำว่าข้าวเปลือกก็ออกเสียงว่าเต๋า เหมือนกัน จึงต้องเสียเวลาอธิบายอยู่พักใหญ่

คุณสวี   :  เต๋า ที่ข้าพเจ้าหมายถึงก็คือ วิถีธรรมที่จะสามารถถอนชื่อข้าพเจ้าจากบัญชีเกิด - ตาย ในยมโลก แล้วไปบันทึกไว้บนสวรรค์  ด้วยความตั้งใจที่จะค้นหาผู้ที่จะถ่ายทอดวิถีธรรม คุณสวีใช้ความพยายามที่จะอธิบายให้พระลูกวัดได้เข้าใจ แต่ผลปรากฏว่า พระภิกษุเหล่านั้นล้วนไม่เข้าใจที่คุณสวีกำลังตามหา กระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนค่ำ พระภิกษุที่อยู่บนวัดเกรงว่าเดินทางลงเขาในเวลามืดค่ำจะไม่สะดวก จึงพยายามชักชวนให้คุณสวีค้างคืนบนเขา รอจนสว่างแล้วค่อยลงเขา คุณสวีตอบขอบคุณในความเมตตาของพระภิกษุเหล่านั้น พร้อมกับกล่าวขึ้นว่า

คุณสวี   :  เทพภูเขาแห่งนี้คงคุ้มครองข้าพเจ้า ให้เดินทางกลับได้โดยปลอดภัย 

        เมื่อคุณสวีกล่าวลาพระภิกษุแล้ว ก็เดินทางลงจากเขาทันทีโดยมิรอให้รุ่งเช้า และเป็นจริงดังที่คุณสวีพูดไว้ ระหว่างที่เดินทางลงเขา ตามทางที่เดินมีแสงสว่างตลอดทางเหมือนแสงพระอาทิตย์อัสดง แท้ที่จริงแสงนั้นคงเกิดจากเทพภูเขาดูแลอำนวยความสะดวกให้คุณสวีเดินทางลงเขาด้วยความปลอดภัย เมื่อคุณสวีเดินลงมาถึงเมืองกวงจื่อหลิง แสงนั้นก็หายไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14/01/2019, 01:29 โดย nakdham »

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
หมอเทวดา

        เวลาผ่านไป 18 ปี คุณสวีพ้นจากการเป็นทหารแล้วจึงได้ทำงานอยู่ที่ซินอา ในเวลาเดียวกันคุณสวีมีความรู้ด้านการรักษาโรค ซึ่งมิได้เกิดจากการเล่าเรียน แต่ความรู้นี้ดูเหมือนจะเกิดขึ้นจากภายใน นับวันจะรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหตุนี้เวลารักษาโรคคุณสวีจะไม่เก็บค่ารักษา เพราะถือว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาประทานความรู้ ความสามารถพิเศษนี้ให้ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นอีกเป็นการสร้างบุญ เบื้องบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องการให้คุณสวีเป็นสื่อกลางเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์จากการเจ็บป่วย จนมีอยู่คืนหนึ่งคุณสวีฝันเห็นเทพ 18 องค์ กำลังแบกบ้านหลังหนึ่งสูงประมาณ 4 ชั้น

คุณสวี   :  สิ่งที่ท่านแบกอยู่คืออะไรหรือ

เทพ 18 องค์   :  นี่ก็คือเจ้ากรรมนายเวรของท่าน

คุณสวี   :  ไม่ใช่ ข้าพเจ้าไม่เคยทำร้ายใคร ถือศีลกินเจโดยตลอด จะมีบาปกรรมมากขนาดนี้ได้อย่างไร

เทพ 18 องค์   :  ความจริงเจ้ากรรมนายเวรเหล่านี้ ท่านช่วยแบกแทนคนอื่น

คุุณสวี   :  ในเมื่อเป็นเจ้ากรรมนายเวรที่ข้าพเจ้าแบกแทนคนอื่น ก็เหมือนเป็นเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าเอง เช่นนั้นขอให้ข้าพเจ้าแบกรับเองเถิดท่าน

เทพ 18 องค์   :  ท่านแบกเองคงไม่ไหวหรอก พระอนุตตรธรรมมารดา มีพระบัญชาให้พวกเราช่วยท่านแบก  แล้วคุณสวีก็ตื่นขึ้น คิดทบทวนเรื่องราวที่ฝันเห็นเมื่อครู่นี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14/01/2019, 01:29 โดย nakdham »

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
คืนจิตเดิม

        อยู่มาวันหนึ่งเพื่อนของคุณสวีเดินทางมาหา เพื่อให้คุณสวีเดินทางไปรักษาคนป่วยที่เมืองโต่วลิ่ว วันนี้เป็นเช้าวันที่ 2 เดือน 7 พอดีมีพายุเข้า คุณสวีเดินทางไปที่เมืองโต่วลิ่ว ก็ประมาณตี 1 กว่าแล้ว ในวันนั้นมีการถ่ายทอดการแข่งขันเบสบอล เมื่อจบเกมคุณสวีล้มตัวลงนอน ขณะเดียวกันนั้นวิญญาณของคุณสวีก็ออกจากร่าง แต่ออกไปในลักษณะของเด็กเล็ก ๆ คนหนึ่ง รอบตัวมีผ้าสีรุ้งพันตัวอยู่ เดินไปแต่ละก้าวจะมีดอกบัวมารองรับ และเห็นดอกไม้สวยงามแปลกประหลาดเต็มไปหมด มองเห็นทะเลกว้างใหญ่มาก บริเวณนั้นเองมีเด็กเล็ก ๆ 6 คนกำลังกวาดพื้น

เด็กน้อย   :  ศิษย์พี่ท่านกลับมาแล้ว

คุณสวี   :  พวกเธอคือใคร

เด็กน้อย   :  พี่ท่านไปแค่ชั่วโมงเดียว กลับมาลืมพวกเราหมดเลยหรือ

คุณสวี   :  ข้าพเจ้าไม่รู้ว่ามาที่นี่ได้อย่างไร

เด็กน้อย   :  เอาเถอะพี่ท่าน ตอนนี้อาจารย์เจินจวิน อยู่ข้างในรอพบพี่ท่านอยู่  ระหว่างทางที่เดินเข้าไปภายใน สองข้างทางมีเทพยืนเรียงรายมากมาย ตรงกลางมีตะเกียง 3 ดวง และมีคนนั่งอยู่มีแสงเจิดจ้ามาก

คุณสวี   :  ท่านเป็นใครกัน  ทำไมข้าพเจ้ามาถึงที่นี่ได้

อาจารย์เจินจวิน   :  วันนี้เราดีใจมาก  หลังจากกล่าวจบอาจารย์เจินจวินก็เปล่งเสียงหัวเราะดังไปทั่วบริเวณ เสียงหัวเราะนั้นเมื่อคุณสวีได้ยินก็เกิดหัวเราะตามท่านขึ้นบ้าง

อาจารย์เจินจวิน   :  เราก็คือเทพแห่งพระอาทิตย์  หลังจากนั้นคุณสวีก็ตื่นขึ้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14/01/2019, 01:29 โดย nakdham »

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
พบวิถีธรรม

        ในปี 1979 เดือน 7 วันที่ 3 มีพายุพัดผ่านเกาะไต้หวัน ทั้งลมทั้งฝนกระหน่ำไม่ขาดสาย จึงทำให้คุณสวีไม่สามารถออกไปรักษาผู้ป่วยได้ เพื่อนของคุณสวีเห็นว่าคุณสวีเป็นคนมีเมตตา ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยการรักษาโรคโดยมิได้คิดค่าตรวจ อีกทั้งเป็นคนที่งดเว้นไม่ทานเนื้อสัตว์ เพื่อนของคุณสวีจึงตัดสินใจชักชวนให้คุณสวีมีโอกาสได้รับการถ่ายทอดวิถีธรรม ก่อนหน้านี้เพื่อนของคุณสวีก็รู้ว่าคุณสวีเคยไปท่องนรกอยู่บ่อย ๆ ตั้งแต่เล็กจนโต จึงได้เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของคุณสวีให้อาจารย์ถ่ายทอดธรรมทราบ เมื่ออาจารย์ถ่ายทอดธรรมรับรู้เรื่องราวของคุณสวีจากคำบอกเล่าของญาติธรรม จึงได้กราบเรียนให้ท่านธรรมอธิการทราบ เมื่อท่านธรรมอธิการรับทราบเรื่องราว จึงได้เมตตาอนุญาตให้ถ่ายทอดวิถีธรรมให้กับคุณสวีได้ คุณสวีมาพุทธสถานโดยหารู้ไม่ว่า
สิ่งที่คุณสวีตามหามานานกว่าสิบปีจะได้มาเจอวันนี้ในพุทธสถาน  ภายในพุทธสถาน อาจารย์ถ่ายทอดธรรมได้คอยการมาของคุณสวี ก่อนที่จะเริ่มพิธีถ่ายทอดธรรม อาจารย์ถ่ายทอดธรรมได้นำสารคำขอหลงเทียนเปี่ยวออกมาให้คุณสวีดู

อาจารย์ถ่ายทอดธรรม   :  คุณสวี คุณเคยเห็นสารคำขอแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า   ขณะนี้ สิ่งที่คุณสวีตามหามากว่าสิบปีด้วยความยากลำบาก ดั้นดั้นไปเสาะแสวงหาจากสถานที่ต่าง ๆ มากมายก็ไม่มีวี่แววว่าจะพบ แต่วันนี้กลับได้พบโดยมิได้คาดคิด

คุณสวี   :  เคยเห็นครับ ผมเคยเห็นตอนที่ถอดจิตไปเที่ยวยมโลก แต่ที่ผมเห็นในยมโลกมีขนาดใหญ่มาก ทำไมบนโลกมนุษย์สารคำขอจึงมีขนาดเล็กกว่ามาก  บัดนี้ คุณสวีได้พบสิ่งที่ค้นหามานาน พร้อมกับได้รับการถ่ายทอดวิถีธรรมจากอาจารย์ถ่ายทอดธรรมแซ่หลิน  คุณสวีคุกเข่ากราบรับการถ่ายทอดด้วยความศรัทธาจริงใจ ความรู้สึกตอนนี้ของคุณสวีเต็มไปด้วยความดีใจตื้นตัน ใจตื่นเต้นเป็นที่สุด
       
        ทันที ที่พุทธประทีปจุดขึ้น พายุฝนที่กำลังโหมกระหน่ำได้สงบลงทันที แล้วปรากฏแสงสว่างบนท้องฟ้า  ความอึมครึม  เมฆฝนสลายตัวไปหมด พิธีถ่ายทอดธรรมเริ่มเวลาบ่ายโมง ขณะที่อาจารย์ถ่ายทอดธรรมกำลังทำพิธี คุณสวีเห็นแสงสว่างเจิดจ้า อาจารย์ถ่ายทอดธรรมแซ่หลินกลายเป็นพระอาจารย์จี้กง  คุณสวีมองดูอย่างมีสมาธิ  พระอาจารย์จี้กงเดินตรงเข้ามาใช้นิ้วมือเบิกจุดญาณทวาร ฉับพลันนั้นมีแสงพุ่งตรงออกมาจากจุดที่พระอาจารย์จี้กงชี้ อีกมือหนึ่งของพระอาจารย์ก็ตวัดมือบังไว้ แสงนั้นก็หายไปพร้อมพระอาจารย์จี้กง

        การอธิบายไตรรัตน์ก็เริ่มขึ้น คุณสวีตั้งใจฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มอีกครั้ง ฝนตกลงมาอย่างหนัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14/01/2019, 01:28 โดย nakdham »

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
ท่องจิ่วหยังกวน

        หลังจากได้รับวิถีธรรมแล้ว วันหนึ่งคุณสวีออกไปรักาคนป่วย วันนั้นคุณสวีเหนื่อยมาก จึงล้มตัวลงนอน ชั่วครู่เดียวคุณสวีก็เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระองค์หนึ่งเรียกให้คุณสวียืนขึ้น แล้วส่งเสื้อเต้าเผาชุดใหญ่ (เป็นชุดแบบอาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรม)  ให้ใส่พร้อมรองเ้ท้าเซียนอีกคู่หนึ่ง ั้งเสื้อและรองเท้ใหญ่เกินตัวคุณสวี สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงส่งหมวกจีนเป็นเจดีย์เจ็ดชั้น เมื่อคุณสวีสวมหมวกร่างกายก็ใหญ่ขึ้นจนพอดีกับชุด อีกทั้งตัวคุณสวีเริ่มเบาและลอยได้ และมองเห็นพระโพธิสัตว์กวนอิมลอยอยู่เบื้องหน้า  คุณสวีลอยตามพระโพธิสัตว์กวนอิมไปจนถึงด่านมีชื่อว่า เก้าเก้าจิ่วหยังกวน  บริเวณภายนอกมีคนยืนอยู่มากมาย คุณสวีจึงกราบทูลถามพระโพธิสัตว์กวนอิม

คุณสวี   :  พระโพธิสัตว์โปรดเมตตา ผู้น้อยมิทราบว่าเขาเหล่านั้นมาทำอะไรกันที่นี่ช่างมากมายจริง ๆ

พระโพธิสัตว์กวนอิม   :  เขาเหล่านั้นกำลังตรวจสอบไตรรัตน์  ที่ได้รับถ่ายทอดจากอาจารย์ถ่ายทอดธรรม

        ผู้ที่ได้รับวิถีธรรมแล้ว หากจำไตรรัตน์ไม่ได้ก็มิอาจจะผ่านเข้าไปในด่านเก้าเก้าจิ่วหยังกวน  พระโพธิสัตว์กวนอิมได้เมตตาพาคุณสวีเข้าไปในบริเวณด่านเก้าเก้าจิ่วหยังกวนโดยผ่านประตูทางทิศใต้  (หนันเีทียนเหมิน) ภายในบริเวณของด่านนี้ มีคุกสวรรค์สำหรับผู้บำเพ็ญถึง 124 แห่ง  ในบริเวณด่านยังมีกระจกสำนึกกรรมสำหรับผู้บำเพ็ญยังชำระจิตไม่สะอาด ใครทำผิดสิ่งใดไว้ เมื่ออยู่ต่อหน้ากระจกสำนึกกรรม ความผิดบาปทั้งหลายก็จะปรากฏขึ้น หากพ้นสามวันไปแล้วยังไม่สามารถสำนึกตัวบาปกรรมความเคยชินไม่ดีที่เคยมีมา ผู้นั้นจะต้องแบกรับสิ้งเหล่านั้นไว้เอง หากสามารถสำนึกได้ก็จะผ่านด่านนี้ไปได้เมื่อผ่านเข้าไปภายในเรื่อย ๆ ก็จะเป็นอาคารที่ตกแต่งไว้สวยงามจำนวนมากมาย ในอาคารนั้นมีคนจำนวนมากเข้า ๆ ออก ๆ

        ด่านตรวจสอบผู้ที่หลงอยู่ในกามฉันทะ  เมื่อผ่านเข้ามาในด่านนี้ จะเกิดภาพเพศที่ตนหลงใหล หากยังยึดติดอยู่ก็จะต้องอยู่สำนึกบำเพ็ญในด่านนี้จนกว่าจะตัดสิ่งเหล่านี้ได้

        ด่านตรวจสอบผู้ที่ชอบการพนัน  ภายในด่านจะมีเครื่องเล่นการพนันมากมายหลายหลากชนิด ผู้ใดไม่มีการข้องแวะหรือชอบเล่นสิ่งเหล่านี้เลยก็จะผ่านด่านนี้ไปได้

        ด่านผึ้งหลวง   หากผู้บำเพ็ญไม่สำนึก สามวันผ่านไปแล้วก็จะต้องเข้ามาบำเพ็ญอยู่ในด่านผึ้งหลวงเพื่อฝึกจิต ถ้ามีจิตฟุ้งซ่าน จิตไม่สงบ  ผึ้งหลวงจะำหน้าที่ บินมาต่อยเป็นการฝึกจิต   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14/01/2019, 01:28 โดย nakdham »

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
พบเหลาหมู่

        เมื่อเลยด่านเก้าเก้าจิ่วหยังกวนมาแล้ว คุณสวีมองเห็นอารามใหญ่หลังหนึ่ง มีเสาต้นใหญ่ อีกทั้งมีมังกรเป็น ๆ โอบรอบเสาไว้ เหนือประตูใหญ่มีอักษรคำว่า  "อู๋จี๋กง"  อู๋จี๋กงมีความใหญ่โตมาก คุณสวีตามพระโพธิสัตว์กวนอิมเข้าไป ภายในบริเวณนั้นมีคนมากมายกำลังานผลท้ออยู่ ผลท้อที่นี่เมื่อผ่านปากเข้าไปก็จะหายไป เหลือไว้แต่รสชาติที่หอมหวาน  กลางอารามใหญ่ที่โอ่อ่า มีสิ่งศักดิ์สิทธ์พระองค์หนึ่งประทับอยู่บนเก้าอี้มังกร  ในพระหัตถ์ของพระองค์มีคฑารูปหัวมังกร คุณสวีไม่สามารถมองเห็นได้เต็มตา เพราะพระวรกายของพระองค์มีแสงเจืดจ้ามาก แต่สิ่งหนึ่งที่คุณสวีสังเกตเห็นได้คือ พระองค์่ท่านทรงกรรแสงอยู่ตลอดเวลา  เวลาเดียวกันนั้น พระโพธิสัตว์กวนอิมแสดงความเคารพ คุณสวีจึงทำความเคารพตามพระโพธิสัตว์กวนอิม  พระโพธิสัตว์กวนอิมเมตตาอธิบายให้คุณสวีฟังว่า

พระโพธิสัตว์กวนอิม   :  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้คือ เหลาหมู่  พระอนุตตรธรรมมารดาผู้เมตตา พระเป็นผู้ให้กำเนิด ฟ้า ดิน  และสรรพสิ่งั้งหลาย รวมทั้งจิตญาณของทุก ๆ คนด้วย  เมื่อคุณสวีได้รับฟังเช่นนั้น จึงได้แสดงความเคารพ แล้วเอ่ยกับพระโพธิสัตว์กวนอิม

คุณสวี   :  ข้าน้อยเห็นคนอื่นเขาทานผลท้อกัน ข้าน้อยอยากทานบ้าง

พระโพธิสัตว์กวนอิม   :  อยากทานก็ต้องบอกกับเหลาหมู่  คุณสวีรีบคุกเข่าต่อหน้าเหลาหมู่ ทันใดนั้นก็มีน้ำทิพย์ได้รินมาถึงหน้าคุณสวี เมื่อคุณสวีดื่มเข้าไปก็เกิดความรู้สึกกระชุ่มกระชวย

คุณสวี   :  หอมหวานอร่อยอะไรเช่นนี้  ขออีกถ้วยหนึ่งจะได้ไหม

พระโพธิสัตว์กวนอิม   :  ำไมเจ้าถึงโลภอย่างนี้

คุณสวี   :  ขอข้าน้อยอีกถ้วยหนึ่งนะครับ  สิ้นเสียงขอร้องจากคุณสวี มีกุมารน้อยหลายองค์อุ้มไหมาหนึ่งใบ คุณสวีเห็นเช่นนั้นก็รีบเข้าไปตักน้ำในไหดื่มเข้าไปหนึ่งถ้วยด้วยความรีบร้อน แต่ต้องสำลักออกมา  ไม่เอาแล้ว !  ไม่ดื่มแล้ว !  ำไมรสชาติช่างขม เปรี้ยว ฝาด หวาน ดื่มยากเช่นนี้ ไม่รู้รสอะไรเป็นรสอะไร

พระโพธิสัตว์กวนอิม   :  เจ้าต้องดื่มเข้าไป  เสียงหัวเราะดังกังวาลขึ้น คุณสวีเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระองค์หนึ่งมีลักษณะท้องโต ๆ หน้าเหมือนเด็ก สวมชุดเหมือนออกรบ หัวเราะแสดงอาการร่าเริง  ทำให้คุณสวีหัวเราะตาม เมื่อได้ยินเสียงพระองค์ท่านหัวเราะ  สิ่งศักดิ์สิทธิ์พระองค์นี้ก็คือ หมีเล่อจู่ซือ หรือ พระศรีอริยเมตไตรย  ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เสียงหัวเราะที่ร่าเริง ในมือมีถุงผ้าใบใหญ่ ท้องใหญ่ ๆ นี่เป็นเพราะลักษณะของหมีเล่อจู่ซือ ในพระภาคของพระสงฆ์ถุงย่าม  เหลาหมู่ทรงเมตตามีพระบัญชาอนุญาตให้คุณสวีไปเที่ยวชมบริเวณโดยรอบตามสถานที่ต่าง ๆ ก่อนแล้วค่อยกลับ พระโพธิสัตว์กวนอิมรับสนองพระเสาวณี นำพาคุณสวีไปเยี่ยมชมโดยรอบ จนมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง บริเวณนั้นเต็มไปด้วยหมอก มองไม่เห็นแม้แต่พระโพธิสัตว์กวนอิม

        เจ้าคงมองไม่เห็นล่ะสิ ตาเนื้อของมนุษย์นั้นไม่สามารถมองอะไรบนนี้ได้หรอก  พระโพธิสัตว์กวนอิมทรงเมตตาใช้น้ำในแจกันพรมไม่กี่หยด ตาของคุณสวีก็มองเห็นทุกอย่าง  มีทั้งการแสดงของมังกรเขียว  นกหงส์ฟ้า  กิเลน  และนางฟ้ากำลังโปรยดอกไม้ ดูอ่อนช้อยงดงาม เป็นภาพที่สวยงามจนคุณสวีหลุดปากออกมา 

คุณสวี   :  เราน่าจะมาตั้งแต่แรก ๆ ที่ถอดจิตได้แล้ว

พระโพธิสัตว์กวนอิม   :  เมื่อสิ้นงานโปรดสามภพยุคปลายเมื่อไร ผู้ที่บำเพ็ญทั้งหลายก็จะได้กลับมาเบื้องบน ร่วมงานชุมนุมอริยะ หลงฮว๋าฮุ่ย ร่วมทานผลท้อ และฉลองกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย นับหมื่อพระองค์
        สุดท้าย พระโพธิสัตว์กวนอิมเมตตาพาคุณสวีมายัง "กงเต๋อเตี้ยน"  เมื่อประตูใหญ่เปิดออก คุณสวีกำลังก้าวเข้าไป สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าคือแผ่นป้ายแห่งบุญกุศล ของผู้บำเพ็ญ  บางป้ายก็ใหญ่  บางป้ายก็เล็ก  บ้างก็มีแสงสว่าง  บ้างก็เป็นจุด ๆ ดำ ๆ

คุณสวี   :  พระโพธิสัตว์กวนอิมโปรดเมตตาทำไมป้ายเหล่านี้ดูแปลก ๆ  ไม่เหมือนกัน บ้างสว่าง บ้างดำ บ้างเป็นจุดดำ ๆ

พระโพธิสัตว์กวนอิม   :  ป้ายที่ไม่มีแสง  คือผู้ได้รับวิถีธรรมแล้วไม่ศึกษาบำเพ็ญ
                            ป้ายที่มีจุดดำ ๆ คือผู้ที่รับวิถีธรรมมาแล้ว แต่ไม่บำเพ็ญจริง ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก
                            ป้ายทีมัวมัว      คือผู้ที่รับวิถีธรรมแล้วหลายปี แต่ยังไม่รู้จักถือศีลกินเจ ละเนื้อสัตว์  ไม่เปิดพุทธสถาน
                            ป้ายที่มีแสงสว่าง  คือผู้ที่รับวิถีธรรมแล้ว และตั้งใจศึกษาบำเพ็ญจริง  ถือศีลกินเจเว้นเนื้อสัตว์ เปิดพุทธสถานไว้กราบไว้ คนเหล่านี้เมื่อกลับคืนเบื้องบน  จะมีโอกาสสำเร็จมรรคผลพระโพธิสัตว์     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14/01/2019, 01:28 โดย nakdham »

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
ปลายกัปยุคสาม

        วันนี้ ผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดวิถีอนุตตรธรรมแล้ว หากไม่ได้ศึกษาให้เข้าใจก็จะสูญเสียโอกาสที่ดี ไม่รู้คุณวิเศษของการได้รับชี้หนึ่งจุดพ้นการเกิด - ตายจากพระวิสุทธิอาจารย์ กลับเห็นชีวิตในสังคมที่มีร่างกายเพื่อมองผลประโยชน์ ยึดติดกับวัตถุเงินทอง ลาภยศทางสังคม ละเลยการศึกษาบำเพ็ญธรรม ทำให้ขาดความเข้าใจ หลงอยู่ในความทะยานอยากของตนเอง ไหลไปกับกระแสสังคม เห่อเหิมตามผู้อื่น สุดท้ายหนีไม่พ้นกฏแห่งกรรม ชีวิตจึงมีผิดหวัง
สูญเสีย  ความทุกข์  ทุกอยางล้วนผ่านหมุนเวียนเข้ามา ถึงเวลานั้นอยากจะหนีก็ไม่พ้น  ต้องทนทุกข์ทรมานใจเหมือนอยู่นรกอันร้อนรุ่ม จิตใจฟุ้งซ่านน่าเวทนายิ่งนัก

        วันนี้ มีเวลาไม่มากนัก ปลายกัปยุคสาม เมื่อมีโอกาสได้รับการถ่ายทอดวิถีธรรมแล้ว ควรอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาเพื่อให้เข้าใจ รู้จักพาตนเองให้พ้นภัยบำเพ็ญทั้งใจให้มีโอกาสกลับคืนสู่เบื้องบน ป้ายบุญกุศลจะได้สว่างเจิดจรัส บรรพชนเจ็ดชั้นเก้าชั่วคนได้อาศัยบุญกุศล บรรลุปณิธานกลับคืนสู่สภาวะเดิมร่วมฉลองในงานชุมนุมอริยะ หลงฮว๋าฮุ่ย เข้าเฝ้าพระอนุตตรธรรมมารดาโดยพร้อมเพรียงกัน

~~~ จบเล่ม ~~~
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14/01/2019, 01:30 โดย nakdham »

Tags: