collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: คนไทยควรอ่าน ควรรู้ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1-9 ได้ทรงงานไว้มากมายแค่ไหน  (อ่าน 137245 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
                              คนไทยควรอ่าน ควรรู้ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1-9 ได้ทรงงานไว้มากมายแค่ไหน

          พระราชกรณียกิจรัชกาล 1  ซึ่งไทยยังคงมีสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน ต้องทรงเหน็ดเหนื่อยยากลำบาก สงครามที่แสดงพระอัจฉริยภาพอย่างมากคือ สงคราม 9 ทัพ ทั้งที่ทรงมีกำลังทหารเพียงครึ่งหนึ่งของพม่า แต่ก็สามารถทำสงครามขับไล่อิทธิพลพม่าออกจากล้านนา หัวเมืองเหนือและราชอาณาเขตได้โดยเด็ดขาดทำให้อาณาจักรไทยมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลที่สุดในประวัติศาสตร์  แล้วก็ยังมีพระราชกรณียกิจในด้านอื่นๆ อีกมากมาย
.
        พระเราชกรณียกิจรัชกาลที่ 2  ไทยยังต้องผจญสงครามกับพม่าอย่างต่อเนื่องมีการสร้างเมืองและป้อมปราการต่างๆ ขึ้นมากมายเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าศึกเข้โจมตีพระนครได้โดยง่าย ทรงทำนุบำรุงศาสนา ศิลปวัฒนธรรม เป็นยุคทองของวรรณคดีไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงพระราชนิพนธ์วรรณคดีไว้หลายเล่มองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ได้ยกย่องพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยว่าเป็นบุคคลสำคัญของโลก ในรัชกาลนี้มีช้างเผือกมาสู่พระบารมีถึง 3 เชือก จึงทรงมีพระราชดำริให้แก้ไขธงชาติไทยจากที่เคยใช้ธงแดงมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ให้ทำเป็นรูปช้างเผือกอยู่ในวงจักรติดในธงพื้นแดง ซึ่งใช้เป็นธงชาติไทยสืบต่อกันมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 6
.
        พระราชกรณียกิจในรัชกาลที่ 3   ทรงทำการค้ากับต่างชาติ มีรายได้จากการค้าขายสูงมากเงินตราในท้องพระคลังที่พระองค์ทรงค้าขายได้ซึ่งเรียกขานว่า เงินถุงแดง ได้นำมาใช้เป็นค่าปฎิกรรมสงครามในปี รศ.112 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการถูกยึดครองแผ่นดินจากชาติยุโรป และด้วยเหตุนี้เอง พระองค์จึงถูกขนานพระนามว่า "เจ้าสัว" ทรงให้สร้างเมืองสมุทรปราการให้มีป้อมปราการต่างๆ เพื่อป้องกันภัยทางทะเลทางฝั่งตะวันออก ในรัชกาลของพระองค์บ้านเมืองยังคงต้องประสบปัญหากับการรุกรานจากญวนอยู่ รวมทั้งกับการล่าอาณานิคมของชาติยุโรปอีกด้วย โปรดให้จารึกตำรา และวิทยาการต่างๆ ลงบนแผ่นหินประดับในวัดสำคัญหลายวัด เช่น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย ในรัชสมัยนี้มีตำราเรียนเกิดขึ้น 3 เล่มคือ โคลงจิดามณี ประถม ก กา และปฐมมาลา อีกทั้งยังมีการพิมพ์หนังสือด้วยแท่นพิมพ์เป็นครั้งแรกในประเทศไทยอีกด้วย

       พระราชกรณียกิจในรัชกาลที่ 4   ทรงตั้งโรงพิมพ์ของรัฐบาล ตั้งโรงกษาปณ์เพื่อผลิตเงินเหรียญ แทนเงินพดด้วงและเบี้ยหอยที่ใช้อยู่เดิมมีโรงสีไฟ โรงเลื่อยจักร เปิดที่ทำการศุลกากร ตัดถนนสายหลัก ๆ มีรถม้าขึ้นใช้ครั้งแรก และให้ขุดคลองต่างๆ มากมายได้จัดตั้งตำรวจนครบาล ศาลแก้ไขกฎหมายให้ทันสมัย ให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา ทรงเชี่ยวชาญทางโหราศาสตร์ สามารถคำนวณการเกิดจันทรุปราคาและสุริยุปราคาได้อย่างแม่นยำ
.
        พระราชกรณียกิจ รัชกาลที่ 5   สิ่งที่คนไทยควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างที่สุดคือ การได้พ้นจากความเป็นทาสในรัชสมัยของพระองค์และรอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตกในยุคล่าอาณานิคม แม้ว่าเราจะต้องยอมตัดแขนขา เสียดินแดนไปบางส่วนซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเสียพระทัยเป็นอย่างมากที่ไม่สามารถรักษาดินแดนของบุรพกษัตริย์ไว้ได้ ถึงกับประชวรไม่ยอมเสวยพระโอสถและไม่ประสงค์จะมีพระชนม์ชีพอยู่อีก ในขณะที่พระเจ้าลูกยาเธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ความเจ็บแค้นในครั้งนั้น ทรงชักชวนให้ทหารเรือสักตัวอักษรคำว่า รศ.112 ไว้ที่กลางหน้าอก
.
        พระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 6   ระบบการศึกษาไทยรุ่งเรืองอย่างมากในรัชกาลนี้ มีมหาวิยาลัยแห่งแรก คือ จุฬาฯและสถาบันการศึกษาแห่งแรก คือ เพาะช่าง ยกเลิกบ่อนการพนัน ลดการค้าฝิ่นซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักอีกแหล่งหนึ่งของรัฐบาล ตราพระราชบัญญัติขนานนามสกุล พ.ศ. ๒๔๕๖เป็นการเริ่มต้นให้คนไทยมีนามสกุลใช้ โดยได้ทรงพระราชทานนามสกุลแก่ผู้ที่ขอมาด้วยจัดตั้งธนาคารออมสิน ใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อหุ้นของ ธนาคารสยามกัมมาจล ทุนจำกัด (ปัจจุบันคือ ธนาคารไทยพาณิชย์) ซึ่งมีปัญหาการเงิน ทำให้ธนาคารของคนไทยแห่งนี้ดำรงอยู่มาได้ถึงปัจจุบันทรงริเริ่มตั้ง บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด ซึ่งได้เป็นกิจการอุตสาหกรรมสำคัญของไทยต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน ทรงจัดตั้งสภาเผยแผ่พาณิชย์ซึ่งเป็นหน่วยงานคล้ายกับสภพัฒนาการเศรษฐกิจในปัจจุบันทรงส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อมวลชนที่สำคัญ ในยุคนั้นคือหนังสือพิมพ์ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่ามีเสรีภาพสูงยิ่งกว่าสมัยหลัง พ.ศ.2475 ทรงทดลองและฝึกให้ข้าราชบริพารรู้จักการปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยทรงสร้างเมืองจำลอง
"ดุสิตธานี" ขึ้น เป็นเมืองที่มีพรรคการเมือง,การเลือกตั้ง,และการบริหารตามระบอบประชาธิปไตย ตั้งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และวชิรพยาบาล เพื่อรักษาพยาบาลประชาชนที่เจ็บไข้ได้ป่วยทรงเปิดสถานเสาวภา เพื่อผลิตวัคซีนและเซรุ่ม ทรงเปิดการประปากรุงเทพฯ ทรงเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นผลดีแก่ประเทศไทยอย่างยิ่งในฐานะผู้ชนะสงคราม ประเทศไทยสามารถเจรจากับประเทศมหาอำนาจ ขอแก้ไขสนธิสัญญาสิทธิสภาพนอกอาณาเขตและ สนธิสัญญาจำกัดอำนาจการเก็บภาษีของประเทศไทยทำให้ประเทศไทยพ้นสภาพการเสียเปรียบในด้านการศาล และสามารถดำเนินนโยบายด้านภาษีได้โดยอิสระ จัดตั้งกองเสือป่า ทรงพระราชนิพนธ์เรื่องราวต่างๆ ไว้เป็นอันมาก จึงได้รับพระสมัญญานามว่า สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้าและ องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(UNESCO) ก็ได้ยกย่องพระเกียรติคุณของพระองค์เป็นปราชญ์สยามทรงปรับปรุงและขยายงากิจการรถไฟ สร้างสะพานพระราม ๖ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมทางรถไฟทั้งปวงในพระราชอาณาจักรโดยโยงเข้ามาสู่ศูนย์กลางที่สถานีหัวลำโพง ทรงจัดตั้งกรมอากาศยานได้เริ่มการขนส่งไปรษณียภัณฑ์ทางอากาศระหว่างกรุงเทพฯ ไปยังนครราชสีมาเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓
.
        พระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 7-8   อยู่ในช่วงร้อนแรงของการเมืองภายในประเทศจากกลุ่มคนที่ไปศึกษาในต่างประเทศและอยากนำการปกครองของตะวันตกมาปรับใช้ในประเทศไทยในที่สุด ประเทศไทยก็เปลี่ยนแปลงการปกครอง ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ
.
         พระราชกรณียกิจรัชกาลที่ 9
ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรชาวไทยเสมอมา
เริ่มจากเสด็จเยี่ยมเยียนและพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎร
ตั้งแต่ พ.ศ. 2495 เริ่มจากราษฎรที่อยู่ใกล้เคียงกับ
พระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
และค่อยๆ ขยายพื้นที่ไปทั่วทุกภาคของประเทศ
จนอาจกล่าวได้ว่า
“ไม่มีพื้นที่แห่งใดเลยในประเทศไทย
ที่พระองค์ไม่เคยเสด็จพระราชดำเนินไปถึง”
จำนวนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 1,000 โครงการ
พระองค์ทรงงานหนักตรากตรำมายาวนาน
ทรงถือกำเนิดมาพร้อมภาระและหน้าที่
ใครจะว่า เกิดเป็นพระเจ้าแผ่นดินแล้วสุขสบาย
บางคนยังไม่เคยลงไปเดินลุยขี้โคลน
คลุกดินคลุกฝุ่นเลยด้วยซ้ำ
ในขณะที่พระเจ้าแผ่นดินไทย ในหลวงของเรา
ทรงทำมาหมดแล้วทุกอย่าง
ทั้งลงไปเดินลุยขี้โคลน ขับรถไปตามป่าเขา ถิ่นทุรกันดาร
ตากแดด ตากฝน
ภาระเพื่อประเทศชาติยิ่งใหญ่แค่ไหน
ทรงแบกรับไว้พระองค์เดียว
ที่สำคัญ ไม่อยู่ในฐานะที่จะออกมาแก้ต่างอะไรกับใครได้
คนทั่วไป ถูกใครว่า ใครกล่าวหา ยังออกมาโต้ตอบได้ไม่อึดอัด
แต่พระเจ้าแผ่นดิน “ทำไม่ได้”


ที่มาข้อมูล  :  FB  คุณ Peerapong  Seakow   ขอบพระคุณค่ะ

Tags: