หนึ่งก้าวถลำ สำนึกเสียใจ สายไปไม่ทัน
อยากกลับหลังหัน โศกศัลย์อาดูร สูญสิ้นโอกาส
ชาวโลกทั้งหลาย ใคร่ย้ำหลักธรรม อย่าซ้ำผิดพลาด
ยืนตรงองอาจ หยัดดั่งเสาธง คงแบบอย่างงาม
ท่องพุทธาลัย (2)
บทที่ 9
พลังสว่างพุ่งผ่านสายรุ้ง "ตำหนักปี้หยาง"
ตัวอย่างนำจูง บทธรรมล้ำค่า ณ "ฮว่าชี่กวน" (ปี้หยางตันิงชี่ก้วนหง ฮว่าชี่กวนจงลู่เจินลี่)
พระบรรพจารย์ : ข้าพเจ้าพำนักอยู่ ณ ตำหนักปี้หยาง ปกครองตรวจสอบการเข้าสู่วิถีธรรมระดับกุศลของผู้บำเพ็ญ มีธรรมฉายาว่า พระบรรพจารย์ "เทียนเอว้ยจูซือ" ตำหนักนี้มีเก้าห้อง มีด่านเล็ก "ละลายอารมณ์" และ "ลงโทษ" จัดการลงโทษผู้บำเพ็ญที่มีนิสัย อารมณ์ความเคยชิน บิดเบนขณะเมื่ออยู่ในโลก ไม่ว่าจะเป็นศาสนิก ผู้บำเพ็ญ ผู้ได้รับธรรมะ หรือคนในลัทธินิกายใด ผู้นั้น เมื่ออยู่ในโลก สร้างกุศลบุญคุณธรรม เป็นคุณากรของสรรพสิ่งแทนฟ้า แต่นิสัยอารมณ์รุนแรงฉุนเฉียว เอาแต่ใจ ความรู้ดีมีทิฐิ ดูถูก รังแกอาวุโส ไม่เห็นผู้ใหญ่อยู่ในสายตา ชอบเอาชนะระราน หรือเป็นคนยึดมั่น ไม่คล้อยตามเหตุปัจจัย กลายเป็นรบกวนผู้ร่วมบำเพ็ญ หรืออ่อนไหวตัดสินใจอะไรไม่ได้ ควมคุมสถานกาลที่บิดเบนผิดเพี้ยนไม่ได้ ทำให้เลี้ยงดูคนทุจริตไว้อย่างเลยตามเลยเรื่อยไป ทำให้ะรเบียบวินัยเที่ยงตรงต้องเสียหาย คนเช่นนี้จะต้องส่งเข้าด่านละลายอารมณ์รับการแก้ไข ฉะนั้น ญาณเดิมที่จะได้รับการแก้ไขในด่านละลายอารมณ์ จึงล้วนเป็นผู้ที่มีความผิดเพียงเล็กน้อยในโลกเท่านั้น ระยะเวลาแก้ไขกำหนดไว้สามสิบวัน ระหว่างนั้นมีผู้ตรวจสอบเฉพาะคอยสำรวจตรวจตรา หากได้พบว่าคนใจแข็งรุนแรง เปลี่ยนแปลงเป็นใจราบเรียบได้ คนอารมณ์ร้อนมุทะลุ เปลี่ยนเป็นกลาง ๆ ได้ คนอ่อนไหวตัดสินอะไรไม่ได้ฟื้นสภาพเที่ยงตรง คนอ่อนแอหวาดผวาฟื้นฟูเป็นใจกล้า ก็จะกราบทูลพระบรรพจารย์โปรดนิรโทษ ให้ได้ผ่านด่าน รับรองดูแลไปถึงตำหนัก "ตันหยาง" เพื่อสอบหลักฐานเรื่องอื่น ๆ ต่อไป พวกที่รับการแก้ไขอบรมในด่านละลายอารมณ์ครบกำหนดสามสิบวันแล้ว อารมณ์ยังไม่แก้ไขให้ดีขึ้น จะยึดเวลาอบรมต่อไปใหม่ หรือให้ตกไปสู่ "สถานลงโทษ" รับทุกข์ทรมาน รวมความว่า จะต้องให้เขาสำนึกผิดแก้ไข จึงจะถึงที่สิ้นสุด บัดนี้สบโอกาส ฟ้าเบิกวิชญะกาล แพร่งพรายรหัสวิเศษที่แต่โบราณมาไม่ถ่ายทอดให้จนหมดสิ้น สามัญชนได้สดับ บำเพ็ญได้ในครัวเรือน เพื่อให้ญาณใสใจสว่าง กลมสมบูรณ์ทั้งภายนอกภายใน ในกาลกำหนดเบิกฟ้าเจริญธรรมปรกโปรดครั้งนี้ผู้ทีฝ่าฟันขวากหนาม บุกเบิกแพร่ธรรมได้ มักจะโน้มเอียงไปทางขยันกล่อมเกลา ฉุดช่วยผู้มีบุญสัมพันธ์อย่างกว้างขวาง เพื่อสร้างกุศลบุญคุณธรรม แต่มองข้ามการฝึกฝนบำเพ็ญนิสัยความเคยชินของตน พอหมดอายุละสังขาร แม้ถวายชื่อไว้ในบัญชีเบื้องบน ถอนชื่อจากบัญชียมโลกแล้ว การทรมานสาหัสจากนรกไม่อาจถึงตัวก็ตาม แต่อารมณ์ธาตุไม่ถึงขั้น ก็ไม่อาจเข้าสู่ภาวะวิสุทธิ์ ไม่อาจเข้าสู่สภาวะอริยะได้ จึงเท่ากับว่า ขึ้นฟ้าเบื้องบนไม่ได้ แต่ได้รับการหลีกเลี่ยงจากนรกภูมิเบื้องล่าง ด้วยเหตุนี้ ตำหนักเราจึงได้จัดตั้ง "ด่านละลายอารมณ์" เพื่อชำระขจัดอุปนิสัยของผู้บำเพ็ญ เพื่อให้เหมาะแก่ผลบุญที่สร้างไว้
พระอาจารย์ : ขอบพระคุณพระบรรพจารย์ที่โปรดอธิบายการทำงานหน้าที่ต่าง ๆ ในตำหนักของพระองค์อย่างละเอียด บัดนี้เราจะไปชมสภาพความเป็นจริงของแต่ละห้องแล้วหรือยังมิทราบ
พระบรรพจารย์ : ใช่แล้ว เราจะบัญชาเทวมาตย์นำทางไปยังด่านละลายอารมณ์ ทำการสัมภาษณ์อย่างแท้จริง