collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: เทคนิคการอ่านหนังสือให้รวดเร็วฉบับ Dr.fish  (อ่าน 2721 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
การแบ่งปันยิ่งให้ตัวเรานั้นยิ่งได้รับ...วันนี้ผมอยากจะแชร์การอ่านหนังสือฉบับรวดเร็วให้ทุกท่านได้ลองหยิบเทคนิคนี้ไปใช้...และขอขอบคุณโปรป๊อบสำหรับคำถามที่ทำให้ผมต้องเขียนแบ่งปัน...ถ้ารักกันจริงก็คลิกเบา ๆ เข้ามาได้เลยครับ

 ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ โปรป๊อบ สำหรับคำถามที่เข้ามาใน In-boxผม ถึงมีเทคนิคอย่างไรในการอ่านหนังสือให้จบเล่ม เพราะหนังสือดี ๆ มีมากมายเหลือเกิน ซึ่งเป็นคำถามที่โปรป๊อบถามผมมาตั้งแต่วันพุธ...แต่กว่าผมจะมาตอบก็เป็นวันศุกร์แล้ว...ต้องขออภัยที่มาล่าช้า...แต่ก็ดีกว่าไม่มา เนอะ!!

  เอาล่ะครับเรามาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่าครับ...ปกติผมเป็นคนที่รักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจเข้าขั้นเดินเข้าร้านหนังสือไม่ได้ต้องเข้าไปคลุกกับกองหนังสือมากมาย...ซึ่งผมถือว่าเป็นอาหารชั้นเลิศอย่างดีที่มาช่วยบำรุงสมองของเราให้เจริญเติบโตแข็งแรง...และผมมักไม่พลาดที่จะหยิบหนังสือดี ๆ หนังสือที่ถูกใจเดินไปที่เคาน์เตอร์และหยิบเงินออกมาเพื่อซื้อกลับมาเก็บที่บ้าน...นอนอ่านบ้าง...นั่งอ่านบ้าง...แต่ไม่ว่าจะอ่านท่าไหนเราก็ได้ความรู้ทั้งนั้น...ยกเว้นไม่เปิดอ่าน

     อันที่จริงแล้วผมก็ไม่ได้มีเทคนิคอะไรมากมายหรอกครับเพียงแต่ทุกวันนี้ที่อ่านหนังสือ...อ่านเพราะ

1.หนังสือที่ถูกใจ

 แน่นอนครับเมื่อเราเดินเข้าไปร้านหนังสือและเจอหนังสือที่ถูกใจเราก็คงหยิบขึ้นมาและเปิดดูผ่าน ๆ ดูสารบัญว่ามีเรื่องอะไรบ้าง และเนื้อหาการจัดรูปเล่มน่าอ่านหรือไม่อย่างไร...เพราะหนังสือที่เราเลือกแล้วว่าใช่และพร้อมที่จะซื้อหามาเก็บจะต้องเป็นหนังสือที่เราสามารถนำมาต่อยอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงาน...การใช้ชีวิต...การเงิน...หรืออื่นๆ ฯลฯ ยกตัวอย่างช่วงนี้ผมกำลังจะไปทำงานอาชีพฟรีแลนซ์ ผมก็จะหาหนังสือประเภทนี้มาอ่านเพื่อศึกษาถึงวิธีการทำอาชีพฟรีแลนซ์ว่ามีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไร...เพื่อนำไปปฏิบัติเป็นแนวทางของเรา...และตอนที่เราอ่านหนังสือเล่มนั้น เราจะรู้สึกวางไม่ลงจริง ๆครับ ผมใช้เวลาในการอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับฟรีแลนซ์อยู่ 2 เล่มขอแนะนำ ชื่อหนังสือ Freelance Free Life และ การลาออกครั้งสุดท้าย ทั้ง 2 เล่มนี้ผมใช้เวลาอ่านแค่ 2 สัปดาห์ครับ สัปดาห์ละ 1 เล่มไม่เร็วและไม่ช้า ปานกลางครับ เราจะรู้สึกอินไปกับตัวหนังสือที่ผู้เขียนถ่ายทอดในมุมมองของอาชีพนั้น ๆ และทำให้อยากอ่านจนถึงตอนสุดท้าย

2. หนังสือที่นำไปต่อยอด

 หนังสือทุกเล่มผมเชื่อว่ามันมีคุณค่าในตัวเองอยู่แล้วครับ...เพียงแต่เรามองเห็นศักยภาพของหนังสือเล่มนั้นมากน้อยเพียงใด...ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล สำหรับผม...ผมอ่านหนังสือเพื่อนำไปต่อยอดความคิด...และศึกษาสำนวนการเขียนจากนักเขียนท่านอื่น ๆ เพื่อฝึกการคิดการจินตนาการให้เกิดตัวอักษรหรือสำนวนที่เราประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ในรูปแบบและสไตล์ของตัวเรา...ดังนั้นการที่เรารู้สึกว่าหนังสือมันมีประโยชน์เราก็จะอยากอ่านหนังสือเล่มนั้น ๆ มากขึ้นเป็นเงาตามตัวครับ

3. ระเบิดความอยาก

  ด้วยภาระหน้าที่ในแต่ละวันที่เราต้องทำงาน...อาจทำให้เราไม่มีเวลามากพอในการพัฒนาตนเอง...แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้อเสียหรือข้ออ้างที่จะหยุดการเรียนรู้...แต่นั่นเป็นการสะสมพลังงานความอยากที่พร้อมจะระเบิดความอยากนั้นให้พุ่งออกมาจากร่างกายของเรา...และวันใดที่คุณมีเวลาว่างมากพอที่คุณพร้อมปล่อยพลังจงรีบวิ่งไปหยิบหนังสือที่คุณชอบเพื่อมาเปิดอ่านอย่างทันท่วงที

4. อ่านแบบเร็ว ๆ

  คนบางคนแค่เห็นหนังสือก็พาง่วงเหงาหาวนอนกันแล้ว...เมื่อก่อนผมก็เคยเป็นแต่ผมใช้วิธีง่าย ๆ นั่นคืออ่านแบบเร็ว ๆ ไม่เน้นทุกคำ...ใช้สายตากวาดไปในแต่ละประโยคเพื่อพอให้รู้ว่าในแต่ละบทของหนังสือเล่มนั้นกล่าวถึงอะไร...ใจความสำคัญ หรือ Point นั้นคืออะไร และด้วยวิธีนี้ผมเชื่อว่า แป๊บเดียวเท่านั้นแหละครับ คุณสามารถอ่านหนังสือเล่มนั้นจบภายในวันเดียวแน่นอน...เผลอ ๆ ถ้าวันนั้นคุณมีเวลาว่างทั้งวันอาจอ่านหนังสือจบหลายเล่มก็ได้....ถ้าไม่เผลอหลับซะก่อน หุ หุ

5. ตอกย้ำตนเอง

 หมายถึงการที่เราต้องเตือนตัวเองเสมอว่า...ชีวิตเรายังไม่ประสบความสำเร็จเรายังต้องเรียนรู้อีกมากมายบนโลกใบนี้...ดังนั้นเราจะมัวแต่ทำเรื่องไร้สาระไม่ได้ เราต้องหมั่นเรียนรู้ให้เยอะ ๆ ถ้าไม่มีโอกาสเข้าสัมมนาดี ๆ ก็อ่านหนังสืออยู่ที่บ้านนั่นแหละ...ในวันที่อากาศเย็น ๆ ลมพัด ชิว ชิว มีน้ำหวานสัก 1 แก้วเย็น ๆ และขนมขบเคี้ยวสักหน่อย...พร้อมหนังสือคู่ใจ...โอ้ว !! ชีวิตนี้ไม่ขออะไรอีกแล้ว...จะขออยู่กับเธอไปตลอด (เธอในความหมายของผม คือ การเรียนรู้) สวรรค์ชัด ๆ

 5 เทคนิคนี้ที่ผมมักจะใช้อยู่เป็นประจำ...ทำให้ผมสามารถอ่านหนังสือได้มากมายและสามารถพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา...และด้วยอาชีพวิทยากรและนักเขียนที่จำเป็นต้องเป็นน้ำครึ่งแก้วที่คอยเต็มเติมความรู้อยู่ตลอด...ทำให้ผมไม่พลาดที่จะมีหนังสือดี ๆ ติดตัว ติดรถ ยามที่ผมมีเวลาว่าง...ผมก็จะนำมันขึ้นมาอ่านอยู่เสมอ...และบรรยากาศที่ผมชอบไปนั่งอ่านหนังสือส่วนมากจะเป็นร้านกาแฟ มุมเงียบ ๆ สบาย ๆ พร้อมน้ำปั่นเย็น ๆ 1 แก้ว

เท่านี้ชีวิตก็มีความสุข ฉบับง่าย ของ Dr.fish แล้วครับผม    ขอบคุณค่ะ

Tags: