11. ลองมั่ว อาจะได้ดี เค้า แนะนำว่า ให้ลองคิดอะไรสองอย่างที่ไม่เกี่ยวกันเลย แล้วลองคิดโยงสิ่งต่างๆ ระหว่าง 2อย่างนี้ ที่มันน่าจะเกี่ยวข้องกัน การหัดคิดแบบนี้ ช่วยให้เวลาต้องการไอเดียต่างๆ มันจะคิดแตกแขนงออกมาได้ดีขึ้น
12. ผ่อนคลายเข้าไว้ เวลา คิดอะไรไม่ออก ลองผ่อนคลายตัวเองดู ทั้งสมองและร่างกาย พยายามทำให้ตัวเองผ่อนคลายให้มากที่สุด สัก 30 นาที
13. ทำไมด์แม็พแบบง่ายๆ วิธีก็คือ ตั้งโจนย์ปัญหาไว้ในวงกลมกลางกระดาษ แล้วขีดเส้นตรงออกมาทุกทิศทาง โดยที่ทุกปลายของเส้นตรงคือชื่อ สิ่งของ คำ หรือไอเดียต่างๆ ที่มาจา่กปัญหากลางกระดาษ วิธีนี้ จะช่วยให้สมองเห็นภาพของปัญหาที่ต้องการจะแก้ไขได้ดียิ่งขึ้น
14. เริ่มเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เช่นหัดเรียนภาษา ดนตรี หรือง่ายๆ เช่น ถ้าคุณไม่เคยวาดภาพ ว่างก็ลองเอาดินสอกับกระดาษมาวาดเล่นๆ หรือเอาสีเมจิกมาระบายเล่นๆ ดู วิธีนี้ช่วยให้สมองสร้างการเรียนรู้ใหม่ๆ และ ช่วยเปลี่ยนวิธีคิดในการทำงานในอีกมุมมองนึง
15. ออกกำลังกาย การออกกำลังกาย ไม่ได้มีผลแค่ร่างกายแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สมองหลั่งสารความฉลาด (Fluid intelligence) ที่ช่วยให้เราเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้ดีขึ้น, สร้างกลีบสมองด้านหน้าที่ช่วยในการวางแผน, และช่วยให้การตัดสินใจได้เร็วขึ้น แค่สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาทีก็พอครับ
16. หลับลึกและนาน การนอนหลับที่ลึก และนานพอ ช่วยให้เราตื่นมาอย่างแจ่มใส และสมองทำงานได้ดีจนน่าแปลกใจ มีเทคนิคการนอนให้หลับได้ลึกๆ ดังนี้ ก่อนนอน 6 ชั่วโมง อย่ากินกาแฟ และผ่อนคลายร่างกายด้วยการอาบน้ำอุ่นๆ ด้วยสบู่เหลวประเภทสปา จากนั้นดื่มนมตามอีก 1 แก้ว แล้วไปนอนซะ !!!!
17. ลงเดินซะบ้าง ผลวิจัยล่าสุดบอกเราว่า เพียงเดินครั้งละ 45 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานแบบมัลติทาร์กกิ้ง (ได้มากว่า 1 งานพร้อมกัน) ขึ้น 15 % รวมทั้งช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงกลีบสมองส่วนหน้าได้ดีขึ้น
18. ตื่นแต่เช้า ผลจากข้อ 16 ก็เพราะว่า ตอนเช้าหลังจากการหลับออย่างเต็มที่ สมองเราจะปราดเปรียวเป็นพิเศษ หากมีปัญหาหรือไอเดียที่คิดไม่ตก ลองพักแล้วเก็บมาคิดตอนเช้าอีกที อาจจะได้ไอเดียดีๆ อย่างเหลือเชื่อ
19. กินใบแป๊ะก๊วยเยอะๆ ในภาษาอังกฤษ คือ Ginkgo Biloba ใบแป๊ะก๊วยมีสรรพคุณในการช่วยนำเลือดไปเลี้ยงสมองได้เป็นอย่างดี ทำให้ความจำดี มีสมาธิ จะเอามาคั้นดื่มเป็นน้ำ หรือที่สกัดมาเป็นแคปซูล ก็ได้ผลดีไม่ต่างกัน (ประทานเหมาเจ๋อตุง ชอบทานน้ำต้มใบแป๊ะก๊วยเป็นอย่างยิ่ง)
20. กินน้อยๆ แต่กินถี่ๆ อันนี้เน้นว่าเฉพาะเวลาที่ต้องการใช้สมองหรือต้องการเค้นไอเดียออกมา เพราะการกินมื้อหนักมาก หรืออิ่มจนเกินไป จะช่วยให้เลือดส่งไปเลี้ยงสมองไม่พอ เพราะเอามาเลี้ยงกระเพาะหมด คิดอะไรก็จะไม่ค่อยออก ดังนั้นกินพออยู่ท้อง แต่อาศัยกินบ่อยๆ จะดีกว่า