collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: ประวัติความเป็นมาของกาแฟในประเทศไทย  (อ่าน 1248 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
ประวัติความเป็นมาของกาแฟในประเทศไทย

กาแฟ ข้าวแฝ่ โกปี๊ หรือ ค้อฟฟี่ ตลอดจนค้อฟฟี่ช้อป
(coffee shop) และคาเฟ่ (Café) เป็นภาษาที่คุ้นหูและคุ้น
เคยกับคนไทยมากพอสมควรในปัจจุบันนี้

กาแฟใน ประเทศไทยมีต้นกำเนิดจากที่คนไทย ผู้ซึ่งนับถือ
ศาสนาอิสลามคนหนึ่ง ชื่อนายดีหมุน ได้มีโอกาสไปแสวง
บุญ ณ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบียได้นำเมล็ดพันธุ์
กาแฟมาเพาะปลูกที่บ้าน คือ ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย
จ.สงขลา ในปี พ.ศ. 2447 กาแฟที่นำมาปรากฏว่าเป็นพันธุ์
โรบัสต้า การปลูกได้ผลดีพอสมควร จากนั้นจึงได้มีการ
ขยายพันธุ์ และมีการส่งเสริมการปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสต้านี้
ออกไปอย่างกว้างขวางในภาคใต้ของประเทศไทย โดยส่ง
เสริมเป็นพืชปลูกสลับในสวนยางเป็นรายได้สำรองจากการ
กรีดยาง

ปัจจุบันการปลูกกาแฟในภาคใต้ ได้มีการพัฒนาการอย่าง
มากมายสามารถปลูกเป็นพืชหลัก และทำรายได้ให้เกษตร
กรเป็นอย่างดี พื้นที่ปลูกทั้งสิ้นประมาณ 147,647 ไร่
สำหรับกาแฟพันธุ์อาราบิก้า (C. Arabica) ซึ่งเป็นกาแฟ
พันธุ์หลักและมีผลผลิตประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของโลกนั้น
ได้ถูกนำเข้ามาปลูกในประเทศไทย ประมาณปี พ.ศ.2493
ทั้งนี้ตามบันทึกของพระสารศาสตร์พลขันธ์ ซึ่งเป็นชาว
อิตาลี ต่อมาในปี พ.ศ. 2516 โครงการปลูกพืชทดแทน
และพัฒนาเศรษฐกิจชาวไทยภูเขา ไทย/สหประชาชาติ
ได้เริ่มโครงการทดลองทำการเกษตรหลายชนิด โดยมี
วัตถุประสงค์สำคัญในการค้นหาพันธุ์พืชและสัตว์ มาทด
แทนการปลูกและผลิตยาเสพย์ติดฝิ่น ของชาวไทยภูเขา
และเพื่อทำการพัฒนาเศรษฐกิจของชาวไทยภูเขาอีกด้วย
และต่อมาในปี พ.ศ. 2520 โครงการได้ขยายเวลาการ
ดำเนินการต่อไปอีก 5 ปี โดยเปลี่ยนชื่อเป็นโครงการ
ปลูกพืชทดแทนและการตลาดที่สูง ทั้งนี้เป็นผลจากการ
ทดลองใช้พืชหลายชนิดในการปลูกทดแทนฝิ่นซึ่งได้ผลดี
ทำให้พื้นที่และปริมาณการผลิตฝิ่นลดลงไปมาก ในการส่ง
เสริมปลูกพืชทดแทนฝิ่นนี้ กาแฟพันธุ์อาราบิก้าเป็นพืช
ชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญและเป็นความหวังในการทดแทน
ฝิ่นและสามารถทำรายได้แก่เกษตรกรชาวเขาได้เป็นอย่าง
ดี ทั้งนี้เนื่องจากสภาพความเหมาะสมของพื้นที่สูง และ
ความต้องการในตลาดยังมี อยู่มากนั่นเอง

เอกสารอ้างอิง
การปลูกและผลิตกาแฟอาราบิก้าบนที่สูง (Highland Arabica Coffee Production)
ศูนย์วิจัยและพัฒนากาแฟบนที่สูง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่                ขอบคุณค่ะ

Tags: