collapse

ผู้เขียน หัวข้อ: กินผักตามฤดู...  (อ่าน 1649 ครั้ง)

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
กินผักตามฤดู...
« เมื่อ: 4/09/2012, 07:57 »
                      กินผักตามฤดู 12 เดือน

        อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่า ผักสีเขียว ๆ จะช่วยให้เราผิวพรรณผ่องใส และระบบการขับถ่ายทำงานดีขึ้น ยิ่งถ้าเราได้รับประทานผักสด ๆ ด้วยแล้ว จะยิ่งได้วิตามินและสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเต็มที่
        เมื่อรู้ถึงคุณประโยชน์ของ...ผักอย่างนี้แล้ว เห็นทีคงต้องอาศัยข้อมูลจาก รศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล หัวหน้าฝ่ายมนุษยโภชนาการ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มาเล่าสู่กันฟังแล้วล่ะว่า ถ้าจะเลือกผักตามฤดูกาลเพื่อหลีกเลี่ยงสารพิษ ในแต่ละเดือนเราควรเลือกผักประเภทไหนที่เหมาะสม 

เดือนมกราคม แครอท กระหล่ำดอก ผักกาดขาว ผักกาดเขียวปลี และปวยเล้ง
คุณค่าทางสารอาหาร : ผักกาดเขียวและปวยเล้งจะมีแคลเซียมสูง และมีเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตา และเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ส่วนแครอตจะให้สารเบต้าแคโรทีน กรรมวิธีการปรุงเราสามารถหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อนำมาผัดหรือใส่ลงในซุปได้

เดือนกุมภาพันธ์ มะเขือเทศ ผักโขม แตงกวา
คุณค่าทางสารอาหาร : เม็ดแตงกวาและเปลือกจะให้ใยอาหาร ผักโขมมีเบต้าแคโรทีนสูง ส่วนมะเขือเทศจะให้สารแคโรตินอยด์ ที่ช่วยต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่น หรือต้านอนุมูลอิสระ (ภาวะชะลอความเสื่อมของร่างกาย) เราสามารถนำมาซอยให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อใส่ในน้ำซุป หรือผัดลงในข้าว หรือในไข่เจียวก็ได้ทั้งนั้น

เดือนมีนาคม ผักกวางตุ้ง เห็ดฟาง ถั่วฝักยาว  คะน้า
คุณค่าทางสารอาหาร : ผักคะน้าจะมีแคลเซียมสูง แต่บางคนอาจจะรู้สึกว่าขม ดังนั้น ถ้าเราหั่นใบเป็นชิ้นฝอย ๆ และลอกก้านคะน้าให้เหลือเพียงสีขาวใส ๆ แล้วนำมาผัดโดยเพิ่มแครอตผสมเข้าไปในข้าว จะทำให้อาหารมื้อนั้นอร่อยถูกปากยิ่งขึ้นค่ะ นอกจากนั้นคะน้ายังอุดมไปด้วยสารอาหารเบต้าแคโรทีนด้วย ส่วนถั่วฝักยาวควรล้างให้สะอาด ๆ แล้วรับประทานสด ๆ เพื่อจะได้ปริมาณวิตามินซีอย่างเต็มที่

เดือนเมษายน หอมใหญ่ ถั่วฝักยาว เห็ดฟาง
คุณค่าทางสารอาหาร : หอมใหญ่มีสารต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ซึ่งช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย เราสามารถซอยหอมใหญ่แล้วนำมาผัดกับข้าวผัด ทำให้ข้าวผัดนั้นมีรสชาติหวานขึ้น ส่วนเห็ดฟางก็นำมาใส่ลงในแกงจืดเปลี่ยนรสชาติของอาหาร ทำให้ไม่น่าเบื่อ

เดือนพฤษภาคม ถั่วพู  มะละกอดิบ
คุณค่าทางสารอาหาร : มะละกอดิบเอามาทำส้มตำ เท่ากับได้รับประทานผักสด ๆ ซึ่งจะได้รับวิตามินซีเพิ่มขึ้นนะคะ สำหรับถั่วพู นำมาหั่นฝอยผสมเต้าหู้หรือทอด เป็นทางเลือกที่หลากหลายในการเพิ่มแร่ธาตุแคลเซียมและใยอาหาร

-เดือนมิถุนายน  คะน้า เห็ด
คุณค่าทางสารอาหาร :  ส่วนเห็ดจะให้โปรตีน และคะน้าจะมีแคลเซียมสูง

เดือนกรกฏาคม   ยอดตำลึง ผักบุ้งไทย
คุณค่าทางสารอาหาร : ผักบุ้งหรือผักที่มีสีเขียวเข้มจะให้สารเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตาและต้านอนุมูลอิสระ ส่วนผักตำลึงจะให้สารเบต้าแคโรทีนเช่นกัน มีเมนูที่ทำง่าย ๆ ได้คุณค่า เช่น ใส่ลงไปในไข่เจียว หรือต้มจืดรับประทานก็ได้ค่ะ

เดือนสิงหาคม ผักกระเฉด หัวปลี ข้าวโพด
คุณค่าทางสารอาหาร : หัวปลีจะมีใยอาหารค่อนข้างมาก ช่วยในเรื่องการขับถ่าย ส่วนข้าวโพดซึ่งจัดเป็นธัญพืชจะมีเบต้าแคโรทีนสูง ผักกระเฉดจะช่วยเรื่องขับถ่าย และเป็นผักที่มีเบต้าแคโรทีนสูงเช่นกัน แต่ระวังในการเลือกซื้อด้วยนะคะ เพราะเดี๋ยวนี้มีการใส่สารที่เป็นอันตรายทำให้ผักดูสดใหม่อยู่เสมอ

เดือนกันยายน ผักกระเฉด กวางตุ้ง บวบ
คุณค่าทางสารอาหาร : กวางตุ้งอุดมไปด้วยแคลเซียม และเบต้าแคโรทีน ส่วนบวบจะให้ใยอาหารค่อนข้างสูง

เดือนตุลาคม มะระ ถั่วพู สายบัว ผักกระเฉด
คุณค่าทางสารอาหาร : มะระเป็นผักสมุนไพรที่ให้วิตามินซีสูง (ถ้ารับประทานดิบ ๆ) เราสามารถทำเป็นเมนูแกงจืดหรือตุ๋นก็ได้ โดยคว้านไส้ในออกแล้วสอดหมูบดลงไป ส่วนผักกระเฉดและสายบัวควรล้างให้สะอาด ๆ ก่อนนำไปบริโภค

เดือนพฤศจิกายน  ผักกาดขาว สายบัว
คุณค่าทางสารอาหาร : ผักกาดขาวมีเบต้าแคโรทีนสูง ส่วนสายบัวให้ใยอาหารช่วยในเรื่องขับถ่าย

เดือนธันวาคม   ถั่วแขก ถั่วลันเตา กะหล่ำปลี
คุณค่าทางสารอาหาร : กะหล่ำปลีหรือกะหล่ำดอกสดเป็นแหล่งของวิตามินซีอย่างดี เราสามารถนำมาผัด หรือต้มโดยใส่หมู หรือรับประทานสด ๆ ก็ได้ ส่วนถั่วลันเตาเป็นผักที่มีโปรตีนค่อนข้างสูง และมีใยอาหารสูง

        ทีนี้เมื่อเลือกรับประทานผักตามฤดูตามเดือนแล้วก็ควรรับประทานผักให้ครบทุกชนิด เพราะการได้รับสารอาหารที่หลากหลายจะทำให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์มากกว่าการเจาะจงรับประทานเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง

ที่มา : MomyPedia  ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ หนึ่งเดียว หลุดพ้น

  • Elder
  • มิตรนักธรรม
อาหารเสริมภูมิต้านทาน

        เข้าสู่หน้าฝนเมื่อไหร่ อุณหภูมิร้อนสลับเย็น ก่อนฝนตกอาจจะร้อนอบอ้าว พอฝนผ่านไปแล้วก็เริ่มมีลมเย็นๆ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยแบบนี้ ทำเอาเป็นหวัดได้ง่ายๆ การปรับสมดุลของร่างกายจึงเป็นสิ่งจำเป็น และสิ่งที่ช่วยปรับสมดุล...พร้อมๆ กับเพิ่มภูมิต้านทานได้ หนีไม่พ้นเรื่องของอาหาร

-เบต้าแคโรทีน เพิ่มการทำงานของเซลล์ที่ดักจับเชื้อโรค พบมากในแครอต ฟักทอง มันเทศ บีทรูต ผักใบเขียวจัด แคนตาลูป มะม่วงสุก มะละกอสุก ฯลฯ

-วิตามินบี 6 ช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดขาวสร้างแอนติบอดี พบมากในถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืชไม่ขัดสี ไก่ หมู กล้วย นม ตับ ฯลฯ

-วิตามินซี มีมากในผลไม้ตระกูลส้ม มะนาว สตรอเบอรี่ พริกหวาน บร็อกโคลี มะเขือเทศ ฯลฯ ทำหน้าที่ป้องกันเซลล์เม็ดที่ทำหน้าที่ดักจับเชื้อแบคทีเรีย

-วิตามินอี เพิ่มการสร้างแอนติบอดี ช่วยสร้างเสริมการทำงานของเซลล์ที่ทำหน้าที่หลักในการป้องกันการติดเชื้อ มีมากในข้าวโพด น้ำมันมะกอก ถั่วเปลือกแข็ง ฯลฯ

-โปรตีน ช่วยผลิตและรักษาปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาว มีมากในผลิตภัณฑ์นมขาดไขมัน ถั่วเมล็ดแห้ง เนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา ถั่วเปลือกแข็ง

-ซีลีเนียม เพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกัน มีมากในเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน อาหารทะเล ฯลฯ

ที่มา : momypedia.com + womenthaiza   ขอบคุณค่ะ 

Tags: