
เก๋ากี่ ผลไม้ที่มีต้นกำเนิดจาก ดินแดนสวรรค์ ที่ นิตยสารไทม์ ระบุว่า เป็น สุดยอดผลไม้แห่งปี และเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตในหมู่ ซุปเปอร์สตาร์ฮอลลีวูดสุดยอดผลไม้ “ เก๋ากี่ ” หรือ “ แฮปปี้ เบอร์รี่ ” หรือ “ โกจิ เบอร์รี่ ”
ตลอดช่วงหลายปีมานี้ "โกจิเบอร์รี่" เริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลายขึ้นเมื่อถูกนำมาใช้เป็นส่วน ผสมหลักในอาหารเสริมและเครื่องดื่มประเภทฟังก์ชั่นนอลดริงก์ อันที่จริงแล้ว นอกจากนี้ผลโกจิเบอร์รี่ยังได้รับการยกย่องจาก นิตยสารไทม์ว่า เป็นสุดยอดผลไม้แห่งปีและเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตในหมู่ซุปเปอร์สตาร์ฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็น มาดอนน่า,แคทเธอรีน ซีต้า โจนส์ และกวิเน็ต พัทโธรว์ จนได้รับการขนานนามให้เป็น "แฮปปี้เบอร์รี่"
เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า ทําไมดาวจรัสฟ้าแห่งวงการมายาฮอลลีวู้ดหลายๆ คนถึงไม่ยอม แก่ลงเลย ไม่ว่าจะเจอสักกี่ปีก็เหมือนหยุดอายุผิวให้คงอ่อนเยาว์ กระจ่างใสได้ ตลอดเวลา เคล็ดลับของพวกเธออยู่ที่ผลไม้สีแดงลูกเล็กๆ ที่เรียกว่า “ เก๋ากี่ ”หรือ “ แฮปปี้ เบอร์รี่ ” หรือ “ โกจิ เบอร์รี่ ” ที่เรียกได้ว่าจิ๋วแต่แจ๋วเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าของ "สารแอนติออกซิแดนท์"

เก๋ากี่ หรือ ลีเซียม บาร์บารุ่ม (Lycium Barbarum) คือ ผลของต้น เก๋ากี้ เป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง ตระกูลเบอร์รีสีแดง มีลักษณะเป็นเมล็ดเล็กๆ ที่นิยมรับประทานในหมู่ชาวจีน ผลที่ส ุกแล้วจะมีสีแดงเหมือนเลือด
จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า "ฮ่วยกี้" เป็นยาบำรุงชั้นดี มีฤทธิ์ปานกลาง รสหวาน

เก๋ากี้ที่ดีต้องมีเม็ดใหญ่ สีแดง เนื้อหนา อ่อนนิ่ม รสหวาน การเก็บรักษา
ควรเก็บไว้ในที่แห้ง อย่าให้ชื้น จะทำให้เสื่อมคุณภาพ หรือขึ้นรา
ส่วนมากเรารู้จักเก๋ากี้ในเชิงสมุนไพรสำหรับประกอบอาหารเสียมากกว่า ส่วนที่ใช้
เมล็ด ราก ก้านใบ และใบอ่อน ส่วนที่ใช้กันมากคือเมล็ด

“ เก๋ากี่ ” เป็นผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ที่มีถิ่นฐานอยู่ในแถบ เทือกเขาหิมาลัย
จึงไม่ใช่เรื่อง แปลกหากคุณไม่เคยได้ยินชื่อของโกจิเบอร์รี่มาก่อน
เพราะถึงแม้ว่าผลไม้ดังกล่าวจะเป็นยาโบราณที่สําคัญ
ที่ใช้ในประเทศเอเชียมาหลายชั่วอายุคนก็ตาม
แต่ความลับด้านประโยชน์ทางโภชนาการของผลดังกล่าวยังคงเป็นความลับที่ชาวโลกส่วนมากยังไม่ทราบย้อนไป 4,000 ปี ก่อนคริสตกาล นักสมุนไพร ชาวหิมาลายันได้ค้นพบความลับที่มีค่ามากที่สุดคือผลโกจิเบอร์รี่ท้องถิ่นซึ่งต่อมาได้รับการถ่ายทอดสู่นักปรุงยาชาวจีน ทิเบต และอินเดีย

จากการค้นคว้าและวิจัยของ Dr.Earl Mindellค้นพบว่าผลโกจิเบอร์รี่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมี
สารแอนติออกซิแดนท์ในปริมาณมากถึง 25,300(ในขณะที่ลูกพรุนซึ่งมีสารแอนติ-ออกซิแดนท์เป็นลําดับที่ 2 มีเพียง 5,700 ORACเท่านั้น) โดยสารออกซิแดนท์ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่อแก่ตัวลงเป็นสาเหตุสําคัญของความแก่ก่อนวัยอันควร
สารสำคัญที่พบ :-
v กรดอะมิโน 18 ชนิด
v สังกะสี,
v เหล็ก,
v ทองแดง,
v แคลเซียม,
v เจอมันเนียม,
v เซเรเนียม และ
v ฟอสฟอรัส
v มีโปรตีนมากกว่าโฮลวีต
v มีวิตามิน ซี เอ และบี 2
v มีแอนติอ็อกซิแดนต์คาโรตีนอยด์ จำนวนมากเช่น ไทอามีนเบต้าแคโรทีนและซีซานทีน
v มีพอลิแซ็กคาไรด์ 22 ชนิด โดยมี 4 ชนิดที่ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ซึ่งทำหน้าที่เหมือนโมเลกุลหลักในร่างกายเมื่อเกิดการทำงานร่วมกันแล้วจะทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมและนำพาคำสั่งต่างๆซึ่งเซลล์ของร่างกายใช้ในการติดต่อสื่อสารถึงกันผลลัพธ์คือระบบการทำงานของร่างกายจะสมบูรณ์ขึ้นและร่างกายใช้เพื่อซ่อมแซมส่วน
ที่สึกหรอเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดีมีอายุยืนยาว

สรรพคุณ
v แก้ไอ วิงเวียนศรีษะ
v ยาบำรุงร่างกายให้แข็งแรง
v แก้อาการอ่อนเพลีย
v บำรุงไต ปอด เลือด ตับ และสายตา เพิ่มความสามารถในการมองเห็น รักษาโรคตาบอดกลางคืน
v แก้โรคไตพร่อง
v ช่วยดูแลเรื่องผิวพรรณ ชะลอความชรา ลดน้ำหนัก
v เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ช่วยต่อต้านมะเร็งและสามารถหยุดการเติบโตของเซลล์มะเร็ง
v ลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือดผู้เป็นเบาหวาน
v ลดความดันโลหิต
v ยับยั้งการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด
v ช่วยให้หัวใจแข็งแรง
v ช่วยสร้างเม็ดเลือดแข็งแรง
v ปรับปรุงเซลล์เม็ดเลือดขาว
v เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ช่วยระบบเจริญพันธุ์
v ป้องกันอาการค ลื่นไส้ของหญิงมีครรภ์
v ลดอาการอักเสบและโรคไขข้ออักเสบ
v เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ กระดูก ช่วยให้เหงือกแข็งแรง
v ปรับปรุงระบบการย่อย
v ป้องกันโรคภูมิแพ้
v ลดความเครียด อาการปวดศีรษะ
v ช่วยในการนอนหลับ
v ช่วยในเรื่องความจำ
v ทำให้รู้สึกสดชื่น

การใช้ เป็นเครื่องปรุงอาหารได้ เช่น
v ตุ๋นกับเนื้อสัตว์เป็นอาหารบำรุง
v โดยทั่วไปใช้เก๋ากี้ประมาณครั้งละ 6-12 กรัม ต้มรับประทานน้ำ ดื่มแทนน้ำชา
v ทำเป็นยาเม็ดลูกกลอน ดองเหล้า หรือต้มจนเปื่อยกรองเอากากออก
v ทำเป็นขนมรับประทานเป็นของว่าง เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งในยุคนี้มีเทคโนโลยีและนวัตกรรม ใหม่ๆ สามารถเปลี่ยนเก๋ากี้ ให้กลายมาเป็นน้ำผลไม้สกัดเข้มข้น รสชาติอร่อยกลายเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่อยู่ในรูปน้ำผลไม้เสริมสร้างและบำรุงสุขภาพเห็นหลายเว็บ ขายน้ำโกจิเบอร์รี่ ซึ่งขอบอกว่าราคาแพงมากแพง จนน่าตกใจเลย เพราะ
ว่าแท้ที่จริงก็คือเก๋ากี้ เราก็สามารถทำกินเองที่บ้านได้ โดยเม็ดของเก๋ากี้เองก็มีหลายพันธุ์

แต่ขอแนะนำให้รับประทานพันธุ์ที่เป็นสีแดงครับสารอาหารเยอะกว่าเพราะว่าเก๋ากี้มีปลูกทั่วไปในประเทศจีน แต่ที่ปลูกในมณฑลหนิงเซี่ย กานซู่ เหอเป่ยส่านซี นั้นทีสรรพคุณดีที่สุดซึ่งโกจินี้ อเมริกาได้ส่งนักวิจัยไปศึกษาถึงประเทศจีนเลยว่ามีประโยชน์อย่างไร