นักธรรม

ห้องสมุด "นักธรรม" => หมวด : รวมเกร็ดธรรม, บทความธรรมะ => นิทานดีมีคติ => ข้อความที่เริ่มโดย: หนึ่งเดียว หลุดพ้น ที่ 15/07/2013, 14:44

หัวข้อ: หลวงตากับลูกศิษย์
เริ่มหัวข้อโดย: หนึ่งเดียว หลุดพ้น ที่ 15/07/2013, 14:44
นิทาน.....หลวงตากับลูกศิษย์

ณ วัดแห่งหนึ่ง หลวงตาเพิ่งกลับจากการบิณฑบาตเห็นลูก
ศิษย์วัดนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น จึงเข้าไปถามไถ่ว่าเป็นอะไร
ลูกศิษย์ตอบกลับมาว่า
“ ผมถูกใส่ร้าย ผมไม่ได้ขโมยเงินในหอพระ แต่ผมเข้าไป
ปัดกวาดเช็ดถูบ่อย ๆ ทุกคนก็หาว่าผมเป็นขโมย ไม่มีใคร
เชื่อผมเลย ”
หลวงตานั่งลงข้าง ๆ พยักหน้าเข้าใจแล้วสอนลูกศิษย์ว่า
“ เจ้ารู้ไหมในตัวเรามีคนอยู่สามคน คนแรกคือ คนที่เรา
อยากจะเป็น คนที่สองคือ คนที่คนอื่นคิดว่าเราเป็น คนที่
สามคือ ตัวเราที่เป็นเราจริงๆ

ลูกศิษย์หยุดร้องไห้ นิ่งฟังหลวงตา
“ คนเราล้วนมีความฝัน ความทะเยอทะยานอยากตามประ
สาปุถุชนทั่วไป ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย บางครั้งความฝันก็เป็นสิ่ง
สวยงาม เป็นพลังที่ทำให้เราก้าวเดิน ถ้าถึงจุดหมายเราก็
จะรู้สึกว่าโลกนี้ช่างสว่างไสวสวยงาม ดังนั้นเราควรมีความ
ฝันไว้ประดับตน เพื่อเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงหัวใจ ”

“ มาถึง ตัวที่สอง จะเป็นเราแบบที่คนอื่นยัดเยียดให้เป็น
บางครั้งก็ยัดเยียดว่าเราดีเลิศ จนเราอาย เพราะจิตสำนึก
เรารู้ดีว่ามันไม่จริงหรอก แต่เราก็ยิ้มรับ แต่บางครั้ง ตัวที่
สองนี้ก็มหาอัปลักษณ์ จนไม่อยากจะนึกถึง ซ้ำร้ายยังเกิด
ขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะมันเป็นโลกในมือคนอื่น มันเป็นสิ่ง
แปลกปลอมที่คนอื่นยื่นให้ ”

“ อย่างคนขับสิบล้อจอดรถอยู่ข้างทางเฉย ๆ เช้ามาพบ
ศพใต้ท้องรถ ก็ต้องขับรถหนี ทั้งที่ศพนั้นถูกรถชนตายอีก
ฝั่งแล้วดันถลามาใต ้ท้องรถ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนขับสิบล้อ
บางคนก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาเป็นฆาตกร ”
คนที่ชอบนินทานั้นมองคนอื่นด้วยใจที่หยาบช้า ไร้วิจารณ
ญาณ ใจแคบมองคนอื่นผ่านกระจกสีดำแห่งใจตัวเอง คน
เหล่านี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม เจ้าต้องจำไว้นะ ทุกครั้งที่เรา
ว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำ
ในใจตัวเองออกมา เห็นสิ่งไม่ดีของใคร จงเตือนตัวเองว่า
อย่าทำ อย่าเลียนแบบ นั่นแหละวิถีของนักปราชญ์ ถ้า
เอาไปว่าร้ายนินทาเรียกว่าวิถีของคนพาล “

“ แล้วเราต้องทำตัวอย่างไรละครับ ในเมื่อเราต้องเจอคน
เหล่านั้นเรื่อย ๆ ”
ลูกศิษย์หยุดร้องไห้แล้ว เริ่มสนทนาโต้ตอบหลวงตา
“ เจ้าต้องทำความเข้าใจจิตใจมนุษย์ เรียนรู้ว่าความเข้า
ใจผิดเกิดขึ้นได้ เราห้ามใจใครไม่ได้ สิ่งใดที่เราไม่ได้ทำ
ไม่ได้คิด ไม่ได้เป็น แต่คนอื่นคอยยัดเยียดให้เรา เราก็ไม่
ควรให้ความสำคัญ เพราะเราสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง
ใจเราควรสงบนิ่ง ใจคนอื่นต่างหากที่ควรซักฟอกให้ขาว
สะอาดกว่าที่เป็นอยู่ เขาเหล่านั้นเป็นบุคคลที่น่าสงสารมี
เวลามองคนอื่น แต่ไม่มีเวลามองตัวเอง จงแผ่เมตตาให้
เขาไป เข้าใจใช่ไหม ”
“ เข้าใจครับหลวงตา ” เด็กน้อยยิ้มอย่างมี ความสุขอีก
ครั้ง…

ที่มา : http://blog.rmutp.ac.th/sukumal.w/ 2010/07/25/          ขอบคุณค่ะ