นักธรรม

ห้องสมุด "นักธรรม" => หมวด : รวมเกร็ดธรรม, บทความธรรมะ => ข้อความที่เริ่มโดย: หนึ่งเดียว หลุดพ้น ที่ 12/02/2011, 20:53

หัวข้อ: แนะยึด "โอวาทปาฏิโมกข์" ไม่ให้ตกเป็นทาสความรัก
เริ่มหัวข้อโดย: หนึ่งเดียว หลุดพ้น ที่ 12/02/2011, 20:53

  ศูนย์หนังสือจุฬาฯ 12 ก.พ.-พระครูใบฎีกามณเฑียร มัณฑิโร หรือ "ท่านจ้อย" นำหลักคำสอนท่านพุทธทาสแนะยึด "โอวาทปาฏิโมกข์" เพื่อไม่ให้ตกเป็นทาสของความรัก โดยไม่ทำบาป ไม่ติดยึดในรัก โลภ โกรธ หลงของตัวบุคคล หรือวัตถุสิ่งของ

พระครูใบฎีกามณเฑียร มัณฑิโร หรือ"ท่านจ้อย" แห่งวัดสวนโมกข์ จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวในการเสวนาเรื่อง "รัก..อย่างไม่เป็นทาส"  ซึ่งศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกับวัดพระราม 9 กาญจนภิเษก จัดขึ้นในวาระครบรอบ 105 ปีชาตกาลท่านพุทธทาสภิกขุและครบรอบ 100 ปีชาติกาลทานปัญญานันทภิกขุว่า ท่านพุทธทาสได้กล่าวถึงความรักว่า ความรักในมนุษย์เกิดขึ้นเพื่อให้มีการสืบสานหรือสืบพันธุ์ต่อกันไป ให้มีมนุษย์เกิดใหม่เพื่อช่วยกันจรรโลงโลก ส่วนการมีสัมพันธ์เชิงกามารมณ์ถือเป็นของรางวัลความรักเท่านั้น ให้เรียนรู้ว่าเป็นของอร่อย ให้รู้รสชาติว่าเป็นอย่างไร แต่มนุษย์กลับไปติดยึดตกเป็นเหยื่อ แสวงหาอยู่ไม่มีที่สิ้นสุด หากเป็นเช่นนี้ถือว่าเราตกเป็นทาสความรักแล้ว รวมถึงการติดยึดในวัตถุต่าง ๆ หรือการติดในลาภ ยศ สรรเสริญ เมื่อไม่มีก็เป็นทุกข์ ได้มาแล้วกลัวหายไป ไม่อยู่ยั่งยืนก็เป็นทุกข์ ถือว่าตกเป็นทาสสิ่งนั้น

พระครูใบฎีกามณเฑียร กล่าวอีกว่า คำสอนของท่านพุทธทาสได้แนะนำแนวทางแห่งความรักที่ทำให้มีสุข โดยให้ยึดหลักความรักของพระพุทธเจ้ามาปรับใช้ ซึ่งเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา เรียกว่า "โอวาทปาฏิโมกข์" ที่เกิดขึ้นในวันมาฆบูชาและถือเป็นความรักที่บริสุทธิ์ คือ 1.การไม่ทำบาปหรือทำสิ่งที่เป็นอกุศล  2. การทำกุศลให้เกิดในใจ คิดดี ทำดีต่อตัวเองและทุกคน  และ 3.ทำจิตให้บริสุทธิ์  ไม่มีความโลก โกรธ หลง หวาดระแวงคนรัก ไว้วางใจ เชื่อใจ ไม่ตามจับผิด ปล่อยให้เขามีอิสระ หากได้เข้าถึงหัวใจของพระพุทธศาสนาสามประการดังกล่าว เป็นการเข้าถึงความรักอันบริสุทธิ์ในหัวใจของพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ความรักเชิงหนุ่มสาวให้รู้จักควบคุมอารมณ์ รู้จักปลดปล่อย ปลงจิต นำหลักธรรมมาใช้ นึกเสียว่าทุกคนที่หล่อ สวย คือ "ซากศพ" เกิดขึ้นแล้ววันหนึ่งก็ดับตายไปไม่มียกเว้น ไม่ยึดติดว่าต้องเป็นของเราตลอดไป จะไม่ได้ตกเป็นทาสความรัก

ด้านณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ หรือน้ำผึ้ง นักแสดง กล่าวว่า สมัยเป็นวัยรุ่นตนเป็นคนหนึ่งที่มองว่าการมีคนรักหลายคนแล้วจะรู้สึกดี รู้สึกเก่ง แต่เมื่อเกิดขึ้นจริงกลับเป็นทุกข์ สับสนเพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ เป็นความรักหรือไม่  รวมถึงการติดซื้อสินค้าแบรนด์เนมที่มีแล้วรู้สึกดี เท่ อยู่เหนือผู้อื่น แต่เมื่อมีสินค้ารุ่นใหม่ออกมา ทำให้ของที่มีอยู่ ตกสมัย จะซื้อใหม่ก็ต้องใช้เงินจำนวนมาก กลับเป็นทุกข์ใจ เหมือนเป็นทาสวัตถุ หลังได้เรียนรู้และนำหลักธรรมมาใช้ก็ทำให้จิตใจสบายขึ้น ซื้อกระเป๋าตามประโยชน์ที่ใช้ ยึดหลักพอเพียง จึงอยากฝากวัยรุ่นยุคใหม่ขอให้คิดดี ๆ ทั้งเรื่องความรัก หรือใช้สิ่งของราคาแพงเพราะอาจจะตกเป็นทาสของวัตถุนิยม เสียทั้งเงิน และเสียใจในภายหลัง.

ที่มา : สำนักข่าวไทย 
                                                        ขอบคุณค่ะ